KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

ชื่อกระทู้: การรักษาพยาบาลที่อเมริกา [สั่งพิมพ์]

โดย: ice999    เวลา: 2015-6-8 14:06
ชื่อกระทู้: การรักษาพยาบาลที่อเมริกา
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2015-6-10 13:02



หลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่า ค่ารักษาโรงพยาบาลที่อเมริกาแพงมาก วันนี้จะมาบอกวิธีการรักษาพยาบาลตัวเองเบื้องต้น หรือหากเจ็บป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ จะต้องทำอย่างไรค่ะ :)

คนที่กำลังจะไปเรียนต่อ จึงควรสมัครประกันสุขภาพไว้ด้วยนะคะเพื่อช่วยลดต้นทุนในการรักษาพยาบาลค่ะ ถ้าเรามีประกันเราก็มั่นใจได้ว่าประกันจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลใดๆก็ตามที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่เรียนอยู่ได้ค่ะ  และเมื่อเรามีประกันสุขภาพแล้วควรเก็บเอกสารทุกอย่างให้ดี เผื่อบางทีต้องได้ใช้(หวังว่าคงจะไม่มีใครได้ใช้น๊า)


medcinies.jpg



ค่าประกันสุขภาพ (health insurance) สามารถซื้อจากไทยได้ 6 เดือนอยู่ที่ราวๆ 8 พันบาท หรือมาซื้อที่ โรงเรียน ราคาแต่ละโรงเรียนต่างกัน อยู่ที่เดือนละ $50-$150  จำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องมีประกันไว้เพื่อความอุ่นใจ เพราะบางทีอาจจะปวดท้อง ไส้ติ่ง แขนเดาะ ขาหัก อุบัติเหตุ ฯลฯ มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ

ส่วนรายละเอียดประกันของ รร.ต่างๆ สามารถไปถามที่ Office รร. ได้เลยค่ะ  บอกเค้าว่า เราจะมาขอทราบรายละเอียดประกัน

ค่าใช้จ่ายนี้ ไม่ได้ครอบคลุมค่าเรียกรถพยาบาล (Ambulance) นะคะ การเรียกรถพยาบาลจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ $100-$800 ถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่าเรียกรถพยาบาลค่ะ

มาดูอัตราค่าพยาบาล ค่าแพทย์และค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์อื่นๆในประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีความแตกต่างกันไป  เพราะเหตุนี้ เราจึงต้องทำประกันค่ะ

ค่าบริการห้องฉุกเฉิน จะอยู่ประมาณ $ 200 ต่อครั้ง
ค่าห้องพักในโรงพยาบาล อยู่ในช่วง $ 200 –  $1,000 ต่อวัน โดยไม่รวมค่าแพทย์และบริการด้านการแพทย์อื่นๆ
ค่าคลอดบุตร อยู่ในช่วง $5,000 – $ 8,000
ค่าใช้จ่ายในการเข้าพักในโรงพยาบาลโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์  $8,000


ขอยกตัวอย่าง ประกันสุขภาพของ รร. Intrax นะคะ ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ส่วน รร.อื่นก็คล้ายกันค่ะ อาจจะต่างกันนิดหน่อย ต้องสอบถามกันอีกทีนึง

Intrax

-  คุ้มครองสูงสุด $100,000
-  หากใช้บริการ รพ. ในเครือ จะฟรีค่าใช้จ่าย แต่ถ้า รพ.นอกเครือ เราต้องจ่ายก่อน แล้วเอาใบเสร็จไปเบิกคืนได้ทีหลัง (ได้ 100%)
-  ฟรีค่าใช้จ่ายเรื่องยา เป็นต้น
-  ครอบคลุมการรักษา 58 โรค (รายละเอียดดูได้จากเอกสารประกันค่ะ)

นอกจากนี้เรายังสามารถเปรียบเทียบกรมธรรม์ต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ American Visitor Insurance ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์แบบไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคืออย่าลืมอ่านรายละเอียดให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองทั้งหมดที่เราต้องการหากเจอเหตุฉุกเฉิน



ส่วนแพทย์ไทยที่ ชิคาโก ก็มีนะคะ ตามด้านล่างเลยค่ะ




การดูเลตัวเองเบื้องต้นเมื่ออยู่ที่อเมริกา

1. ปวดหัว เป็นไข้   เป็นหวัด จริงๆ เราควรเตรียมยาไปตั้งแต่ที่เมืองไทยค่ะ เพราะยาตาม Drug Store ไม่ค่อยแรง อาจจะหายช้าได้  นอนพักผ่อนให้เพียงพอจนกว่าจะหายขาด ควรบอกโฮสว่าไม่สบายด้วยค่ะ

2. ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม กับฤดูกาล เช่น หน้าหนาวก็ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ สวมหมวก ถุงมือ ถุงเท้า ขณะนอนตอนกลางคืนควรห่มผ้าปิดถึงอก

3. ควรออกกำลังกายกลางแจ้งทุกวัน

4. ในกรณีที่ปวดจากเอ็นข้อมืออักเสบช่วงปวดอยู่
- เลี่ยงกิจกรรมที่ทำแล้วปวด
- ใช้ความร้อน เช่น กระเป๋าน้ำร้อนประคบบริเวณที่ปวด 30 นาที วันละ 1-2 ครั้ง
หรือความเย็นช่วย ใช้น้ำแข็งห่อผ้าขนหนู cold pack ประคบที่ปวดนาน 10-15 นาที
บ่อย ๆ ได้ตามต้องการ แต่ควรเว้นช่วงมากกว่า 30 นาที
ช่วงหายปวดแล้ว
  ใช้หนังยาง (หนังยางเส้นใหญ่) รัดปลายนิ้ว แล้วกางนิ้วออก
(ใช้แรงดึงของหนังยางเป็นแรงต้าน) ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนหนังยางขึ้นเรื่อย ๆ
ตามที่ทำได้ โดยไม่เจ็บ จำนวน 20 ครั้ง ทำบ่อยได้ตามต้องการ

5. ปวดประจำเดือน เตรียมยาแก้ปวดประจำเดือนมาจากเมืองไทยเลยค่ะ หากลืม กินยาแก้ปวดพาราทดแทนกันได้ พยายามดื่มนมร้อน จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ ประคบผ้าอุ่นไว้ที่ท้อง เอายาพอนสแตนไปอเมริกาด้วยค่ะ เพราต้องใช้ใบสั่งแพทย์ไปซื้อ ยุ่งยากทีเดียว

6. อาหารเป็นพิษ กินยาฆ่าเชื้อได้เลยค่ะ และกินยาลดไข้ด้วย นอนพักผ่อน (อาจจะกินขนมปังปอนด์เพือ่ดูดซับสาร
พิษด้วย)
7. ท้องเสีย หากไม่รุนแรง ก็กินขนมปังปอนด์ได้เลยค่ะ บรรเทาอาการได้ในระดับนึงเลย (ถ้าใครไม่ได้เตรียมยาธาตุมาด้วย)

8. กรดไหลย้อน หากนักเรียนมาเรียนที่อเมริกา ถ้ารับประทานอาหารไม่ตรงเวลา กรดไหลย้อนอาจถามหาได้  
อาการคือ ปวดแสบปวดร้อนตรงบริเวณกลางหน้าอก หรือลิ้นปี่ รู้สึกเหมือนมีก้่อนในคอ  และรู้สึกมีอะไรขมๆ เปรี้ยวๆในคอ
หากจำเป็นต้องกินยา ควรเลือกยาที่สามารถป้องกันการไหลย้อนของกรด  น้ำย่อยในกระเพาะอาหาร  
นอกจากนี้การรับประทานอาหารก็ควรให้อิ่มพอดี อย่ากินอาหารเร็วจนเกินไป และอย่ารับประทานอาหารใกล้เวลานอนเพราะจะทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ง่าย

9. เลือดกำเดาไหล เมื่อเผชิญอาการหนาว แล้วอากาศยังแห้งมากๆอีก อาจเกิดอาการเลือดกำเดาไหลได้
แนะนำให้เปิด เครื่อง Humidifier  หรือใครไม่มีก็เอากระป๋องใส่น้ำมาวางข้างเตียง หรือผ้าชุบน้ำเปียกๆมาวางบนหัวเตียง เพื่อเพิ่มความชื้นในห้องค่ะ

10. โรคโฮมซิค อ่าน http://www.khonthaiamerica.com/f ... =387&extra=page%3D1

11. คันมือ คันเท้า เนื่องจากอากาศแห้งแต่เย็น ทำให้เราต้องอาบน้ำอุ่นตลอดเวลา ผิวเสียความชุ่มชื้นรุนแรงจนเกิดอาการคันดังกล่าว
วิธีแก้ไขคือ ใช้สบู่และโลชั่นที่มีมอยส์เจอไรเซอร์เยอะๆค่ะ อาบน้ำเสร็จควรทา Oil บำรุงผิวทันที ทั่วร่างกายและเท้าด้วยนะคะ เวลาเท้าแห้ง ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ค่ะ ยิ่งถ้าอยู่แถบชายทะเล ทีนี้ ทั้งแห้งทั้งดำค่ะ - -'

12. อ่อนเพลีย เกิดจากการดำเนินชีวิตแบบผิดๆ เช่น กินฟาสฟู้ดบ่อยเกินไป  อาจทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงได้ เพราะอาหารชนิดนี้ไม่มีประโยชน์เลยค่ะ ยิ่งเราต้องใช้สมองในการเรียนด้วยแล้ว อาหารที่กินเข้าไป จำเป็นต้องมีประโยชน์มากๆ
หากจะประหยัดงบ ก็ทำกินเองเลยค่ะ  เช่น ขนมปังโฮลวีตกับทูน่า น้ำส้ม  ผักสลัด ไข่ต้ม นม คอนเฟลคธัญพืช ประมาณนี้ เน้นมื้อเช้าให้มากที่สุด ห้ามอดค่ะ










  ส่วนเรื่องยาที่ควรเตรียมมา อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เก็บของมาอเมริกาต้องเอาอะไรมาบ้าง http://www.khonthaiamerica.com/f ... d=36&extra=page%3D2

ของห้ามนำเข้าอเมริกา  http://www.khonthaiamerica.com/f ... d=35&extra=page%3D1







   
ผู้เขียน Ice :KhonThaiAmerica




ที่มา http://pantip.com/topic/32644461
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tastypastry&month=06-2008&date=09&group=7&gblog=8
http://pantip.com/topic/30769430

รูปจาก
net.acpe.org
www.5wpr.com







ยินดีต้อนรับสู่ KhonThai America : คนไทยในอเมริกา (http://khonthaiamerica.com/) Powered by Discuz! X2.5