‘Phonemic Chart’ คือ กลุ่มของสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช้แทนเสียงพูดในภาษาอังกฤษค่ะ ถึงแม้
phonemic chart ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปจะอยู่บนพื้นฐานของ
Received Pronunciation และไม่ได้ครอบคลุมทุกเสียงที่มีในบางสำเนียงแต่มันก็เป็นแนวทางที่ดีที่ช่วยให้เราพอจะรู้ว่าคำหนึ่งๆออกเสียงว่าอย่างไรโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเคยได้ยินคำนั้นมาก่อนตารางดังกล่าวมีอยู่หลากหลายรูปแบบแบ่งตามประเภทของภาษาพูดซึ่งได้รับความนิยม แต่
phonemic chart ที่มีชื่อเสียงที่สุดและใช้กันโดยทั่วไปถูกออกแบบโดยชายที่ชื่อว่า
เอเดรียนอันเดอร์ฮิลล์ ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากผลงานทางด้านการสอนการออกเสียง
Phonemic charts มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้การออกเสียงภาษาอังกฤษเพราะการสะกดคำในภาษาอังกฤษไม่สามารถบอกได้ว่าคำนั้นๆจะออกเสียงอย่างไร แต่ถ้าเราเขียนคำดังกล่าวด้วย
phonemic chart เราจะสามารถแสดงได้อย่างชัดเจนว่าคำดังกล่าวการออกเสียงว่าอย่างไรด้วยเหตุนี้ดิคชันนารีต่างๆจึงมักมีการถอดรหัสส่วนประกอบของเสียงสำหรับแต่ละคำไว้ถัดจากคำนั้นๆ
นอกจากนี้แล้ว phonemic chart ยังมีประโยชน์ต่อการฝึกการออกเสียงอีกด้วย เพราะมันทำให้เราเห็นแต่ละเสียงที่คุณมีปัญหาในการออกเสียงนั้นๆเป็นภาษาอังกฤษและสามารถฝึกออกเสียงนั้นให้ถูกต้อง ครูสอนภาษาหลายๆคนพยายามกระตุ้นให้นักเรียนเรียนรู้สัญลักษณ์เหล่านี้เพื่อให้พวกเขาสามารถสังเกตได้ว่าคำศัพท์ใหม่ออกเสียงว่าอย่างไรเพื่อที่ว่าหลังเลิกเรียนแล้วก็ยังสามารถจดจำมันได้ด้วยค่ะ
การเรียนรู้เกี่ยวกับ phonemic chart ยังมีข้อดีอีกอย่างเพราะมันช่วยให้เราได้เห็นว่าแต่ละเสียงในภาษาอังกฤษสัมพันธ์กันอย่างไรการทราบแผนผังดังกล่าวทำให้เราแยกได้ว่าเสียงใดเป็นแบบก้อง(เกิดจากการสั่นของกล่องเสียง)และเสียงใดเป็นแบบไม่ก้อง
(Tip:แตะนิ้วที่ลำคอแล้วเปล่งเสียง‘zzzzzzzzzz’จากนั้นให้ทำแบบเดียวกันแต่เปล่งเสียง‘ssssssss’ คุณรู้สึกถึงความแตกต่างหรือไม่? นิ้วของคุณน่าจะรู้สึกได้ถึงการสั่นเล็กน้อยของเส้นเสียงเมื่อเปล่งเสียงแรกแต่จะไม่รู้สึกอย่างนั้นเมื่อเปล่งเสียงที่สองคุณทำปากเหมือนกันในการเปล่งเสียงทั้งสองแบบแต่‘zzzzzz’นั้นก้องและมีการสั่นของกล่องเสียง ส่วน‘sssssss’นั้นไม่ก้องและไม่มีการสั่นของกล่องเสียง)
ประโยชน์อีกประการหนึ่งของการคุ้นเคยกับ phonemes คือมันสามารถแสดงให้เห็นเสียงระหว่างคำสำหรับคำบางคู่จะมีอีกเสียงหนึ่งแทรกระหว่างคำทั้งสอง เมื่อเจ้าของภาษาพูดว่า
‘do it’ มันจะมีเสียงคล้ายกับ
‘do wit’ และเราสามารถเขียนได้ง่ายๆ ด้วยการใช้สัญลักษณ์จาก
phonemic chart ค่ะ