2. Big Bend National Park,Texas
เป็น 1 ใน National Park ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ถ้าชอบการผจญภัยและไม่ชอบคนพลุกพล่าน ที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่น่าสนใจค่ะ
3. Joshua Tree National Park, California
ต้นกระบองเพชร Cholla เป็นสัญลักษณ์ของ Joshua Tree National Park มีต้น Joshua Tree และหินยักษ์หลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมเช่น ปีนเขา กางเต้นท์นอน
4. Sequoia National Park ป่าแห่งนี้เป็นป่าต้นสนยักษ์ ตั้งขึ้นเมื่อปี 1890 โดยถือเป็น National Park ที่เก่าแก่ที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนียและเก่าเป็นอันดับสองของสหรัฐรองจาก Yellowstone
5.Olympic National Park, Washington จัดตั้งขึ้นครั้งแรกเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1909 โตยประธานาธิบดีธีโอดอร์ รุสเวลท์ และได้เลื่อนขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ. 1938 หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1981 ถูกกำหนดให้เป็นมรดกโลก และในปี ค.ศ. 1988 สภาคองเกรวกำหนดให้ 95 เปอร์เซ็นของอุทยานเป็นเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติ
(ข้อมูลจาก http://www.korpungun.com/2014/01 ... 0%B8%99-washington/)
7. Crater Lake National Park,Oregon เป็นทะเลสาบที่เกิดขึ้นภายในปล่องภูเขาไฟ อยู่ทางตอนใต้ของรัฐ Oregon เป็น national park ลำดับที่ 5 โดยที่ Crater Lake นี้ เป็นทะเลสาปปิดอยู่บนปล่องปากภูเขาไฟชื่อ Mount Mazama ที่ระเบิดเมื่อประมาณ 5,700 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยหลังจากการระเบิดแล้ว ปากปล่องได้ยุบตัวลง ประกอบกับระดับความสูงของปากปล่อง จึงทำให้มีหิมะและฝนตกสะสมกันเกิดเป็นทะเลสาปที่ปากปล่องภูเขาไฟต่อมา… ทั้งนี้ จุดที่ลึกที่สุดของ Crater Lake นี้ ลึก 592 เมตร ซึ่งทำให้ Crater Lake เป็นทะเลสาปที่ลึกที่สุดในอเมริกา และเป็นทะเลสาปที่ลึกที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ Crater Lake เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือทิวทัศน์อันสวยงามจากภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ค่ะ โดยเฉพาะน้ำในทะเลสาปที่สะท้อนออกมาเป็นสีน้ำเงินเข้มสวยงามค่ะ
(ข้อมูลจาก http://pantip.com/topic/31415046)
8. Yellowstone National Park
มีภูเขาที่สวยงาม ทะเลสาบ แม่น้ำ น้ำตก มีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น กระทิง หมีกริซลี และ Yellowstone ก็ยังตั้งอยู่บนแอ่งภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่เรียกว่า supervolcano ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนของอุทยาน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเป็นศูนย์วิจัยที่ศึกษาประวัติศาสตร์ของพื้นที่ค่ะ
9. Grand Teton National Park ถึงจะอยู่ห่างจาก Yellowstone เพียงนิดเดียว แต่ภูมิประเทศแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาสูง ๆ ที่มียอดแหลม ๆ เรียงรายกันอยู่ สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งนี้คือมูส (moose) แถมดุอีกด้วย ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด
Grand Teton นั้นเริ่มมีผู้คนอพยพมาอาศัยราวปี 1880s แต่ด้วยความที่หน้าหนาวนั้นหนาวจัด จากนั้นไม่นานบริเวณนี้จึงถูกทิ้งร้างไป
ช่วงราวปี 1900 เริ่มมีการเข้ามาทำปศุสัตว์ในบริเวณนี้และเริ่มเป็นที่นิยมมาพักผ่อนของผู้มีฐานะที่ชอบกีฬาล่าสัตว์
จากนั้นจึงมีการรณรงค์ให้กำหนดให้บริเวณนี้เป็น National Park ซึ่งแน่นอนว่าพวกที่ชอบล่าสัตว์จะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
จากการต่อสู้อย่างยาวนานระหว่างผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ในที่สุด Grand Teton ก็ถูกยกให้เป็น National Park ในปี 1950
จุดสนใจใน Grand Teton ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าเทือกเขาสูงทีเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกมากถึง 30,000ฟุต ในระยะ 13 ล้านปีที่ผ่านมา โดยตัวหุบเขานั้นลึกลงไปถึง 24,000 ฟุต ส่วนเทือกเขานั้นยกตัวสูงขึ้นมาถึง 6,000 ฟุต
Glacier จากสมัยIce Age ก็ช่วยกัดเซาะเทือกเขาให้เกิดหุบเหวและหินผาอันงดงามที่เราได้เห็นในปัจจุบัน
10. Acadia National Park, Maine ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี (Mississippi River) ที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น การไต่เขา ตั้งแคมป์ และพายเรือคายัก และหากใครที่อยากจะพักผ่อนอย่างสงบ การได้นั่งชมวิวทิวทัศน์ของท้องฟ้า ภูเขา และแม่น้ำ ก็ช่วยเติมพลังให้คุณรู้สึกสดชื่นได้แล้ว และจุดชมวิวสูงสุดของอุทยานแห่งชาติอะคาเดียยังทำให้คุณได้เห็นมหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ด้วยนะ
11. Great Smoky Mountains National Park เป็น เทือกเขา สูงทอดตัวไปตามแนวของรัฐ Tennessee ถึง North Carolina ในทิศตะวันออกเฉียงใต้สหรัฐอเมริกา เทือกเขานี้บางครั้ง เรียกว่า the Smoky Mountains หรือ the Smokey Mountains หรือเรียกสั้นๆว่า Smokies Great Smoky Mountains National Park ก่อตั้งขึ้นในปี 1934 และมีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากกว่า 9,000,000 คนต่อปี เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีนักเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา และมีความหลากหลายของระบบนิเวศวิทยามากที่สุดในอเมริกาเหนือ ที่นี่นับได้ว่ามีจำนวนประชากรของหมีดำมากที่สุดในภาคตะวันออกของอเมริกา อีกทั้งยังมีความหลากหลายของตัว salamander มากที่สุด
ชื่อ"Smoky"มาจากหมอกธรรมชาติที่เกิดเป็น ควันขนาดใหญ่มองเห็นจากระยะไกล หมอกนี้ที่พบมากที่สุดในตอนเช้าและหลังฝนตกเกิดจากอากาศอบอุ่นชื้นจาก อ่าวเม็กซิโก เย็นอย่างรวดเร็วในระดับของสูงของ Southern Appalachia
Great Smoky Mountains National Park มืกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นปั่นจักรยาน แคมป์ปิ้ง ตกปลา ปีนเขา สิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ในอุทยาน ปิกนิก การไปเที่ยวชมน้ำตกที่สวยงามที่มีมากมายที่นี่ อีกทั้งยังได้ชมความงามของดอกไม้ต่างๆที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งสัตว์ป่าต่างๆเช่น กวาง หมีดำ เป็นต้น
12. Grand Canyon National Park เป็นดินแดนหินผาและหุบเหว ซึ่งหน้าผามีความสูงถึง 1600 เมตร และหุบเหวยาวถึง 450 กิโลเมตรค่ะ แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นจากแม่น้ำโคโลราโดที่ไหลผ่านที่ราบสูง ทำให้เกิดการสึกกร่อนพังทลายของหิน ใช้เวลานาน 225 ปี Grand Canyon ถูกจัด ให้เป็นวนอุทยานแห่งชาติของสหรัฐ นอกจากนั้น ในบริเวณซอกหลืบ ของหุบเขาน้อยใหญ่ ยังมีการค้นพบร่องรอย อารยธรรม ของชาวอินเดียน แดงโบราณ ซึ่งยังมีลูกหลานดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม และบางส่วนก็ยังคงอยู่ที่ ซึ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณหุบเขาแห่งนี้มานานราว 9,000 ปีแล้ว และมีนักท่องเที่ยวไปมากกว่า 2 ล้านคน/ปีค่ะ
13. Zion National Park, Utah เมื่อ พ.ศ. 2452 ประธานาธิบดี William Howard Taft ได้ประกาศบริเวณนี้ให้เป็น National monument เพื่ออนุรักษ์พื้นที่หุบเขา ภายใต้ชื่อว่า Mukuntuweap National Monument ต่อมาใน พ.ศ. 2461 acting director จาก National Park Service ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ได้เปลี่ยนชื่ออุทยานเป็น Zion เนื่องจากชื่อเดิมไม่เป็นที่ไม่เป็นที่นิยมในท้องถิ่น Zion เป็นคำในภาษาฮิบรูโบราณ หมายถึง สถานที่หลบลี้ภัย ซึ่งชื่อนี้ได้รับการต้อนรับเชิงบวกมากขึ้นจากสาธารณชน ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 United States Congress ได้ประกาศให้ monument แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติ จนกระทั่ง พ.ศ. 2480 Kolob section ได้ประกาศ Zion National Monument แยกต่างหากอย่างเป็นทางการ แต่ได้นำมาผนวกรวมเข้ากับอุทยานเมื่อ พ.ศ. 2499 มี Life zone ที่หลากหลาย ทำให้มีความหลากหลายของพืชและสัตว์สูงมาก โดยภายในอุทยานจะแบ่งออกเป็น 4 Life zones ได้แก่ ทะเลทราย, Riparian, Woodland และป่าสน มีนก 289 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 75 ชนิด (โดยมีค้างคาว 19 ชนิด) สัตว์เลื้อยคลาน 32 ชนิด และพืชอีกหลายชนิด โดยมีสัตว์เฉพาะถิ่นที่สำคัญคือ สิงโตภูเขา, Mule Deer, และนกอินทรีทอง รวมทั้งสัตว์ที่นำกลับเข้ามาสู่ถิ่นฐานอีกครั้งอย่าง California แร้งแคลิฟอร์เนีย และ Bighorn Sheep พืชที่พบได้ทั่วไปได้แก่ Cottonwood, Cactus, Datura, Juniper, Pine, Boxelder, Sagebrush, yucca , และ willows ชนิดต่างๆ