1. Old immigration เป็นช่วงที่การอพยพเกี่ยวข้องกับศาสนา มีผู้จาริกแสวงบุญ หรือ พวกเคร่งศาสนา (Pilgrims ) อพยพมาแสวงหาดินแดนใหม่
2. New immigration เป็นช่วงที่การอพยพเกี่ยวข้องกับ การปฏิวัติอุตสาหกรรม ความไม่เท่าเทียมกันในสังคมที่เกิดขึ้นทำให้คนยากจนจำนวนมาก เสาะหาดินแดนใหม่ ด้วยความหวังว่า เมื่ออยู่ที่นั่นจะทำให้เขาสร้างเนื้อสร้างตัวได้ พวกเขาจึงขึ้นเรือมาที่ America ดังนั้นเราจะเรียกยุคนี้ได้อีกชื่อหนึ่งว่า ” ยุคตื่นทอง “
3. Modern immigration จากทฤษฎีทางสังคมเกี่ยวกับการอพยพ ( Social Theories of Immigration )กล่าวว่า อเมริกามีความเป็น Melty pot คือผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรม หลอมรวมวัฒนธรรมของตนเข้าด้วยกัน กลายเป็นเอกลักษณ์ของอเมริกา ( American uniqness ) ในด้านความสัมพันธ์ของคนขาวกับอินเดียนแเดงที่เป็นเจ้าของที่มาก่อนนั้น เป็นไปแบบ love and hate relationship ในปัจจุบันคนอเมริกันเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมตน จึงเริ่มตามหารากเหง้า ( Root )ของตน พวกเขาต้องการรู้ว่าตนมาจากที่ไหน ถึงแม้มีการผสมผสานกันก็จริง แต่ก็ยังคงความเป็นอัตลักษณ์ (Still identifiable ) ของแต่ละวัฒนธรรมไว้จึงกลายมาเป็นทฤษฎีชามสลัด ( Salad Bowl ) ในที่สุด
– รูปแบบวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน ( Dominant American Cultural Patterns ) เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็น Style หรือรูปแบบการใช้ชีวิตของเขาอย่างแท้จริง เหมือนเราอยู่ในวัฒนธรรมไทย เราก็ต้องเรียนรู้ “ความเป็นไทย “ เสียก่อน
– ปัจเจกนิยม ( Individualism )
คนอเมริกันมีความเป็นปัจเจกนิยมมาก แต่ละคนจะต่างกันและมีเอกลักษณ์ ( uniqueness ) ของตน คนพิการในอเมริกา ไม่ถือว่าเป็นคนที่ด้อยกว่าคนปกติแต่อย่างใด พวกเขาจะไม่มานั่งสงสารตัวเอง ไม่ถือเป็นเรื่องกรรมเวร พวกเขาจะถูกปลูกฝังให้เห็นคุณค่าของตัวเอง และให้คิดว่าตัวเองเป็นคนที่พิเศษ ไม่มีใครเหมือน ( You are so special )เราจะเห็นความเป็นปัจเจกนิยม ได้ในสุภาษิต ( Proverb )เช่น “God helps those who help themselves.” ( Benjamin Franklin )
– ความเท่าเทียม หรือ ความเสมอภาค ( Equality )
ถ้าเปรียบเทียบไทยกับอเมริกาแล้ว เราจะใช้คำเรียกขาน หรือคำนำหน้าคนที่เราไม่รู้จักว่า ลุง ป้า น้า อา พี่ ย่า ยายซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยถือระบบเครือญาติ ให้ความสัมพันธ์กับความรู้สึกใกล้ชิด สนิทสนม และให้ความเคารพผู้ที่อาวุโสกว่าด้วย ต่างจากอเมริกาที่มีแค่ I You Mr. Mrs. Miss เป็นต้น
– Science and Technology
Power of Mass – Media ในอเมริกาเป็นสิ่งสะท้อนความเป็นวัตถุนิยม ( materialism ) มีโฆษณาชวนเชื่อเกิดขึ้นมากมาย โดยโฆษณาเหล่านั้นชี้ให้เห็นทิศทาง และ แนวโน้มของสังคม เราจะเห็นได้ว่าปัจจุบันสื่อต่างๆมีอิทธิพลมาก และคนที่อยู่ในสังคมก็ รับเข้ามา มีหนังสือHow-to มากมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงเรื่องอื่นๆด้วย
ตัวอย่างจากวัฒนธรรมขององค์กร Google ทุกๆ 29นาที คนจะสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ที่บริษัท Google ที่นี่มีความเป็น Multi race คือมีคนหลากเชื้อชาติ แต่ทุกคนก็เป็นอเมริกัน บรรยากาศการทำงานไม่มีความตึงเครียด(tension ) เราเห็นวัฒนธรรมขององค์กร เช่น ” Scale , atmosphere , personality “
ส่วนภาพยนตร์เรื่อง The Pursuit of Happyness เป็นเรื่องที่นอกจากจะสะท้อนให้เห็นชีวิตของ Christopher Paul Gardner แล้วยังเห็นวัฒนธรรม รูปแบบการใช้ชีวิตของชาวอเมริกาอีกด้วย ซึ่งขอสรุปเป็นจุดสำคัญๆ ดังนี้