คนไทยชอบตั้งคำถามนี้เป็นคำถามที่สองหรือสามหลังจาก What’s your name? ถือว่ารีบเหลือเกิน อาจทำให้ชาวต่างชาติคนนั้นตกใจ วิ่งหนีคุณเพราะยังไม่พร้อมที่จะพบคุณพ่อคุณแม่คุณ คุณสามารถตั้งคำถามนี้ได้หลังจากที่คุยนานพอสมควร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
เช่น
Did you bring your girlfriend with you?
(คุณพกแฟนมาด้วยหรือเปล่าคะ)
Are you here alone?
(คุณมาที่นี่คนเดียวไหม)
Do you have any children?
(คุณมีลูกหรือยัง … คนโสดจะรีบตอบ Oh no. I’m not married. ซึ่งชัดเจน ตรงกับสิ่งที่คุณอยากได้ยิน)
What does your boyfriend/girlfriend do?
(แฟนคุณทำงานอาชีพอะไร ชัดเจนอีกครั้งว่า คุณกำลังสอบสวนเรื่องแฟนของเขา)
ในที่สุดพอรู้จักคนนั้นอย่างดี ถึงเวลาที่คุณน่าจะพูดทำนองว่า
I don’t have a boyfriend/girlfriend. And you?
(ดิฉันไม่มีแฟนค่ะ แล้วพี่ล่ะคะ)
2. Are you gay?
เรื่องนี้อย่านะ อย่ารีบแตะ อย่ารีบถามเหมือนกัน ถ้าเดาจากพฤติกรรมของเขาไม่ถูก รอสักพักก่อนถาม แต่ที่จริงไม่ควรถามเพราะ
2. a. ถ้าเขาไม่เป็นเกย์เขาต้องเสียความรู้สึกแน่ๆ คืนนี้เขาต้องกลับห้องพักนั่งพิจารณาตัวเองอย่างหนัก ว่า “ผมดูเหมือนเป็นเกย์หรอ”
2. b. เขาอาจเป็นเกย์ แต่ยังไม่ได้เปิดเผย การถามของคุณจะยิ่งทำให้เขาไม่อยากออกลาย เพราะไม่ชอบการซักถามอย่างตรงไปตรงมาอย่างที่คุณถาม
2. c. เขาอาจคิดว่า การที่เขาเป็นเกย์ หรือไม่เป็นเกย์นั้นไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ หรือไม่ก็ ทำไมคุณต้องรีบถามเหมือนเป็นประเด็นใหญ่ (ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วอาจใหญ่จริงๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้หญิงพยายามจีบผู้ชายคนนั้น)
สรุปว่า อย่าเพิ่งถาม รอให้เขาเสนอข้อมูลนี้ก่อน
5. Why are you so fat? Why is your nose so big? Why are you so short?
เหลือเชื่อ คนไทยหลายคนจะสังเกตอะไรเกี่ยวกับลักษณะภายนอกของเพื่อนฝรั่งคนใหม่และก็ถามถึงสิ่งนั้น อย่างเช่น ฝรั่งตัวเตี้ย คนไทยจะบอกเขาว่า You’re very short. หรือถามว่า Why are you so short? เหมือนกับว่าคนนั้นไม่รู้เองว่าเตี้ย
ในคำถามกลุ่มนี้ก็ยังมี
Why are you so fat?
(ทำไมอ้วนจัง)
Have you ever thought about doing some exercise?
(คุณเคยคิดจะออกกำลังกายไหมครับ)
Why is your nose so big?
(ทำไมจมูกโดงล่ะ)
Have you ever had cosmetic surgery?
(เคยทำศัลยกรรมไหม)
หลีกเลี่ยงพวกนี้หมด ไม่ใช่หลีกเลี่ยง ตัดทิ้งดีกว่า