KhonThai America : คนไทยในอเมริกา
ชื่อกระทู้: คำศัพท์ต้องระวัง ถ้าไม่อยากใช้ผิดความหมาย [สั่งพิมพ์]
โดย: ice999 เวลา: 2015-12-25 13:21
ชื่อกระทู้: คำศัพท์ต้องระวัง ถ้าไม่อยากใช้ผิดความหมาย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2015-12-25 13:21
ด้านล่างนี้เป็นคำศัพท์ 10 คำที่ควรระวัง หวังว่าทุกคนจะเห็นความแตกต่าง และใช้ภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้นนะคะ เราเรียกคำศัพท์พวกนี้ว่า เขียนผิด ชีวิตเปลี่ยน ฮ่าๆ
a while และ awhile
a while — เป็น noun หมายถึง ช่วงเวลาหนึ่ง โดยมักจะมีคำว่า for อยู่นำหน้าอยู่เช่น
I will go to the mallfor a while. If you need anything, just call me.
ฉันจะไปห้างสักพักนะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาละกัน
awhile — เป็น adverb หมายถึงช่วงเลาสั้นๆ สังเกตว่าคำนี้จะไม่มี for นำหน้าเช่น
I went to the mallawhile, mom called me to come back home.
ฉันไปห้างแป๊ปเดียว แม่ก็โทรให้กลับบ้านซะแล้ว
accept และ except
accept — ออกเสียงว่า เอคเซ็พท์(เน้นเสียงที่คำหลัง) มีความหมายว่า ยอมรับ หรือรับได้ เช่น
They don't accept heras a friend.
พวกเขาไม่ยอมรับเธอเป็นเพื่อน
except — ออกเสียงว่า อิคเซพท์(เน้นเสียงที่คำหลัง) มีความหมายว่า ยกเว้น... นอกจาก... เช่น
I can eat everythingexcept vegetable.
ฉันกินได้ทุกอย่างยกเว้นผัก
aboard และ abroad
aboard — หมายถึงการเดินทางโดยยานพาหนะในเรือ ในรถ ในรถไฟ หรือในเครื่องบิน เช่น
All passenger wentaboard the bus.
ผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางโดยรถบัส
abroad — หมายถึง ในต่างประเทศเช่น
He studies abroad.
เขาเรียนต่างประเทศ
affect และ effect
affect — หมายถึงมีผลกระทบต่อบางสิ่งมีผลต่อบางสิ่ง ส่วนใหญ่ใช้เป็น verb เช่น
Sunless winter daysaffect my emotion.
วันที่ไม่มีแดดในฤดูหนาวส่งผลต่ออารมณ์ของฉัน
effect — หมายถึงเป็นสาเหตุให้เกิดบางสิ่งส่วนใหญ่ใช้เป็น noun เช่น
Sunless winter day hasan effect on my bad mood.
วันที่ไม่มีแดดในฤดูหนาวเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดี
any one และ anyone
any one — แปลว่า สักคน หรือสักอันเป็นการอ้างถึงคนๆเดียว หรือสิ่งๆเดียว โดยไม่เจาะจงชื่อ หรือเจาะจงว่าเป็นอันไหนแต่รับรู้ว่าอยู่ในกลุ่มใด หรือเกี่ยวข้องกับใคร เช่น
If any one of hisfriends knows, this is your fault.
ถ้าเพื่อนของเขาสักคนรู้ขึ้นมามันก็เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ
anyone — แปลว่า ใครก็ตาม ใครก็ได้ไม่เจาะจงอะไรทั้งสิ้น เช่น
Does anyone see mybook?
มีใครเห็นหนังสือของฉันไหม
desert และ dessert
desert — หมายถึง ทะเลทราย เช่น
He drew a picture ofdesert.
เขาวาดรูปทะเลทราย
dessert — หมายถึง ขนม ของหวาน เช่น
I like to have dessertafter each meal.
ฉันชอบทานของหวานหลังอาหารมื้อหลัก
farther และ further
farther — หมายความว่า ไกลออกไปใช้ในการพูดถึงระยะทาง เช่น
If you are going tothe that village, you have to drive farther.
ถ้าคุณกำลังไปที่หมู่บ้านนั้นคุณต้องขับไกลออกไปอีก
further — หมายถึง ต่อไปอีกเป็นการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปจากเดิม เช่น
She apologizedalready, but he keeps complaining further.
เธอขอโทษไปแล้ว แต่เขาก็ยังบ่นไม่หยุด
lessen และ lesson
lessen — หมายถึง ลดลง บรรเทาลดน้อยลง เช่น
This medicine havelessened my pain.
ยาตัวนี้บรรเทาความเจ็บของฉัน
lesson — หมายถึง บทเรียน เช่น
He has learned hislesson for being late.
เขาได้บทเรียนจากการมาสายแล้วล่ะ
quite และ quiet
quite — หมายถึง ทั้งหมด มากตรงกับคำในภาษาไทยว่า ทีเดียว ออกจะ พอดู เชียว เช่น
He is quite angry ather.
เขาออกจะโมโหเธออยู่นะ
quiet — หมายถึง เงียบ นิ่งเฉยเช่น
You couldn't keepquiet, could you?
เธอนี่อยู่เงียบๆไม่ได้เลยใช่ไหม
sale และ sell
sale — เป็นคำนาม หมายถึง การขายเช่น
All my income is frommy sale.
รายได้ทั้งหมดของฉันมากจากการขายของฉันเอง
sell — เป็นคำกริยา หมายถึง ขายเช่น
He wants to sell hiscar.
เขาอยากจะขายรถของเขา
ขอบคุณที่มา https://bestkru.com/blog/2
ยินดีต้อนรับสู่ KhonThai America : คนไทยในอเมริกา (http://khonthaiamerica.com/) |
Powered by Discuz! X2.5 |