อีกหนึ่งวิทยาลัยที่ได้คะแนนเต็ม 5 ดาว จากการประเมินของ Campus Pride Index ประจำปี 2015 มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีจำนวนนักศึกษากว่า 6,000 คน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1892 ที่เมืองอิทาก้า รัฐนิวยอร์ค ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองที่มีพื้นที่กว่า 670 เอเคอร์ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม หนึ่งในวิทยาลัยที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มนักศึกษา LGBTQ มีการจัดตั้งศูนย์การศึกษาความหลากหลายทางเพศ ที่ชื่อว่า “Center for LGBT Education, Outreach & Services” เพื่อดูแลและส่งเสริมด้านต่าง ๆ ของนักศึกษากลุ่มนี้ ทั้งเรื่องแหล่งข้อมูลออนไลน์, ทุนการศึกษา และยังมีโปรแกรมเลิกบุหรี่ให้กับนักศึกษากลุ่ม LGBT โดยเฉพาะอีกด้วย
3. มหาวิทยาลัยรัทเจอร์ส (Rutgers University)
มหาวิทยาลัยรัทเจอร์ส หรือชื่อเต็มว่า “The State University of New Jersey" วิทยาเขตนิวบรันสวิก เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในรัฐนิวเจอร์ซี่ เริ่มก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในชื่อว่า “Queen's College" เมื่อปี ค.ศ.1766 ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษามากถึง 48,000 คน ทำให้มหาวิทยาลัยรัทเจอร์สเต็มไปด้วยนักศึกษาที่มีความหลายหลายเพศอยู่ร่วมกัน จึงได้เปิดโอกาสในการเลือกที่พักอาศัยและรูมเมท ได้มากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อลดปัญหาของกลุ่ม LGBT นอกห้องเรียน, ปัญหารูมเมท ด้วยการให้จับคู่กันเองตามแต่รสนิยมทางเพศของแต่ละคน เพื่อความพึงพอใจในการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยของเพศต่าง ๆ ทำให้ในปีนี้ มหาวิทยาลัยรัทเจอร์สได้รับคะแนนเต็ม 5 ดาว จากการประเมินของ Campus Pride Index 2015
4. มหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington)
"UW" เป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดอีกหนึ่งแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1861 รวมแล้วมีอายุกว่า 154 ปี ตั้งอยู่ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาทั้งสิ้น 45,000 คน จากหลายประเทศทั่วโลก นั่นจึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้มหาวิทยาลัยวอชิงตันแห่งนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายของนักศึกษาเพศต่าง ๆ ทางมหาวิทยาลัยได้มีการจัดตั้งกลุ่ม “Q Center at the University of Washington” เป็นศูนย์ที่ให้คำปรึกษาและให้การสนับสนุนนักศึกษากลุ่ม LGBTQ ในทุกด้าน การเขียนบล็อกเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ เรื่องเรียน และกิจกรรมต่าง ๆ นักศึกษาคนใดที่มีปัญหาก็สามารถเข้ามาร่วมพูดคุยกันได้
5. มหาวิทยาลัยเพนซิเวเนีย (University of Pennsylvania)