3.อยากไป WAT ค่ะ มีโปรแกรม WAT 6 เดือนไหมคะ ?
ไม่มีค่ะ อันนี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง โครงการ Work and Travel
สามารถร่วมโครงการได้ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ซึ่งก็หมายถึงอยู่ได้ไม่เกิน
3-4 เดือน ดังนั้นแล้วโครงการ 6 เดือน จะไม่ใช่ Work and Travel ค่ะ
4.Wat มีประเทศอื่นไหมคะ ? ไม่อยากไปอเมริกา ?
ณ ตอนนี้ไม่มีโครงการ Work and Travel ที่ประเทศอื่นค่ะ มีที่อเมริกาอย่างเดียว ดังนั้นแล้วคนที่ถามมาว่า อยากไป Work and Travel ที่ญี่ปุ่นหรือออสเตรเลียก็เป็นอีกหนึ่งความเข้าใจผิดมากๆ ถ้าอยากไปที่ประเทศอื่น ก็ไปกับโครงการอื่นค่ะ เช่น Work and Study , Aupair , Internship เป็นต้น
5.Work and Travel -vs- Summer work experience -vs- Summer work aboard?
เป็นโครงการเดียวกันค่ะ แค่ตั้งชื่อให้แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท คือบางบริษัทเค้าก็จะมองว่า การใช้ชื่อที่แบบนี้อาจจะส่อความหมายที่ดีกว่า การพูดว่า Work and Travel เพราะดูเน้นด้านการได้ประสบการณ์มากกว่า บลาๆ อันนี้นานาจิตตัง ชื่อโครงการไม่มีผลเพราะสิ่งที่ได้รับทุกอย่างเหมือนกัน
6.Work and Travel Spring vs Summer
ต้องอธิบายนิดนึงเลยอันนี้ คือประเทศไทยมีระบบการปิดเทอมที่แหวกแนวชาวโลกมาก ไม่รู้ว่าเป็น Thailand only ประเทศเดียวในโลกหรือเปล่านะ ช่วงที่นักศึกษาปกติปิดเทอมกัน ที่เรียกติดปากกันว่า summer การปิดซัมเมอร์ของประเทศไทยมันก็จะเป็นช่วง มีนาคม - มิถุนายน/กรกฏาคม ซึ่งช่วงเดือนนี้ ในประเทศอเมริกา มันคือช่วง Spring ไม่ใช่ Summer ดังนั้นแล้วหากคุณเป็นนักศึกษาภาคปกติที่ปิดเทอมตามช่วงดังกล่าว คุณคือผู้เข้าร่วมโครงการ Work and Travel ช่วง Spring เพราะยึดเรียกตามอเมริกา แต่ถ้าหากคุณพูดว่า คุณเป็นนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ Work and Travel ช่วง Summer นั่นก็คือคุณจะต้องปิดเทอมช่วงเดือน มิถุนายน - สิงหาคม/ตุลาคม หรือพูดง่ายๆว่าเป็นเด็กอินเตอร์นั่นเอง ดังนั้นแล้วสำหรับผู้ที่จะหางานเองไม่ผ่านเอเจนซี่ ก็เช็คด้วยนะจ๊ะว่าตัวเองเป็น Spring หรือ Summer กันแน่
7.Work and Travel หางานเองได้ไหม ?
ได้ค่ะ มันก็คือการเข้าร่วมโครงการ Work and Travel แบบ Indy แต่ทั้งนี้มันเหมาะสำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการมาแล้วครั้งนึง เพราะคุณอาจจะอยากกลับไปทำงานกับนายจ้างเก่า โดยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้เกือบ 2 หมื่นบาท แต่ไม่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการ ปีแรกให้ไปผ่านเอเจนซี่ดีกว่าค่ะ เสียเงินแพงกว่า แต่มั่นใจได้มากกว่า โดยเฉพาะกรณีที่โดนลอยแพ
15.Start date - End date ?
วันเริ่มงานแต่ละสถานที่ทำงานก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ Start date : ปกติก็จะกำหนดระยะเวลา Start date 1-30 March ซึ่งหมายความว่า คุณควรจะเริ่มงานได้ภายในช่วงนี้ ถ้าเริ่มงานได้หลังจากนี้ก็ไม่ควรไปเลือก ก็ให้เลือกงานอื่นที่เค้ามี Start date ช่วง 15 April แทนก็แล้วกันค่ะ เพราะจะได้จับคนให้ถูกกับงาน ดีกว่าคุณไปกันที่เค้านะ End date : ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1 June - 30 June ซึ่งอันนี้แล้วแต่งานมากๆ บางงานเค้ากำหนดไว้แค่ 15 May ก็มีแบบนี้ถ้าโดนเลิกงานไว คุณก็แย่หน่อยเพราะไม่มีงานทำแล้ว ก็ไม่เป็นไร ไปเที่ยว ไปสนุกกับช่วงเวลาที่เหลือแทน ถ้าหากมีปัญหาเรื่อง End date เช่นขอเลิกงานก่อน แต่ก่อนไม่เกิน 1 อาทิตย์ แบบนี้อยู่ในขั้นโอเคค่ะ แต่บางคนพอไปถึงแล้วทำไม่ไหว ขอเลิกงานก่อนซักเดือนนึง แบบนี้คุณอยู่ในขั้นเลวร้ายมาก เพราะ คุณกำลังทำให้นายจ้างไม่พอใจ แล้วเมื่อเขาไม่พอใจ ปีต่อไปเขาก็ไม่อยากรับเด็กไทย น้องๆรุ่นต่อไปก็มีตัวเลือกน้อยลง แบบนี้เรียกว่ารุ่นพี่ไปทำชื่อเสียเอาไว้ อันนี้เราไม่ได้พูดถึงกรณีคนที่มีธุระจำเป็นจริงๆนะ จำเป็นหรือไม่จำเป็นอันนี้คุณก็รู้อยู่แก่ใจ โกหกใครได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้หรอกนะ