คำศัพท์ใช้เรียก "ที่พัก" ต่างๆ นอกเหนือจากคำว่า Hotel

ice999

              เราอาจจะได้ยินแต่คำว่า Hotel ที่แปลว่าโรมแรมบ่อยๆ แต่ยังมีคำศัพท์อื่นๆ ที่ใช้เรียกที่พักตามลักษณะที่แตกต่างกัน มาดูกันเลยค่ะ

Filios Sazeides via unsplash

1. Homestay
การพักกับคนท้องถ่นหรือบ้านที่มีคนท้องถิ่นเป็นเจ้าของ ซึ่งเราจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นจริงๆ บางที่อาจจะมีแพ็กเกจรวมไปถึงมีอาหาร ทำกิจกรรมและพาเที่ยวด้วยนะคะ

wang xi via unsplash

2. Resort
รีสอร์ตจะเป็นแนวที่พักติดธรรมชาติ เช่น ภูเขา  บนเกาะ ที่ไกลจากตัวเมือง หลายๆ แห่งมีพื้นที่ให้เราได้พักผ่อน หรืออาจจะมีกิจกรรมให้ทำ เช่น สนามกอล์ฟ สนามเทนนิส สถานที่สำหรับพายเรือ สถานที่สำหรับสกี หรือสระว่ายน้ำ เป็นต้น

countryliving.com

3. Timeshare / Vacation Rentals
เป็นที่พักในลักษณะที่คนกลลุ่มหนึงเป็นเจ้าของร่วมกัน แต่ว่าจะแบ่งกันพักคนละช่วงใน 1 ปี เช่น คนแรกพัก ม.ค.-มี.ค. คนที่ 2 เม.ย.-ส.ค. คนที่ 3 ก.ย.-พ.ย. เป็นต้น แล้วแต่จะตกลงกัน

Photo by Ippei Naoi on Getty Images

4. Ryokan
ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นอาจจะเคยได้ยินคำนี้นะคะ "เรียวกัง" ก็คือ สถานที่พักที่ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่แท้จริงและได้สัมผัสความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นดั้งเดิม เราจะได้นอนบนเสื่อทาทามิ อาบน้ำและทานอาหารแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น

tenpodesign.com

5. Hostel
จะคล้ายๆ โรงแรมในราคาที่ถูกกว่ามาก เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวสายแบ็คแพ็คนิยมมาพักกัน เพราะมีราคาถูก ได้นอนร่วมห้องกับคนอื่น ได้รู้จักเพื่อนจากทั่วโลก Hostel จะมีแบบห้องเดี่ยวหรือห้องรวม ห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวมนะคะ (ราคาแตกต่างกัน)

diyhomeart.com

6. Hostal
คล้ายๆ Hostel แต่ Hostal มีขนาดเล็ก ส่วนมากมีห้องน้ำในตัว ไม่มีอาหารเช้า ห้องพักแบบนี้มักจะพบในประเทศแถบละตินอเมริกาและสเปนค่ะ

tripadvisor

7. Guest House
อาจจะเป็นแบบบ้านหรือตึก ให้เช่ารายวันเหมือนโรงแรมแต่ห้องน้อยกว่า ราคาบางแห่งก็ถูกกว่าโรงแรม บรรยากาศและการบริการจะเป็นกันเองมากกว่าโรงแรมนะคะ

currentlychicboutique.com

8. Bed And Breakfast
เรียกย่อๆ ว่า B&B แต่บางประเทศก็เรียก Motel ที่พักนี้ให้บริการทั้งที่นอนและอาหารตามชื่อเลยค่ะ

24.media.tumblr.com

9. Motel
เราจะเห็น Motel ตามหนังฝรั่งบ่อยๆ ราคาค่อนข้างถูกและสะดวกสบาย มีจำนวนแขกและห้องพักน้อยกว่าโรงแรม มีสถานที่จอดรถให้หน้าตึกได้เลย (ไม่มีรูมเซอร์วิสนะคะ) บางที่เอาสัตว์มาด้วยได้ แต่เนื่องจากคนเข้าออกเยอะ บางทีอาจจะไม่ปลอดภัยถ้าเราเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว

botels.me

10. Botel
มาจากคำว่า boat + hotel ก็คือ โรงแรมที่เป็นเรือนั่นเองค่ะ (เป็นเรือที่ติดอยู่กับท่า ไม่ใช่เรือที่แล่นไปมา) ที่พักแบบนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ราคาก็มีหลายระดับขึ้นอยู่กับว่าเรามีงบเท่าไหร่ การบริการจะเหมือนโรงแรมเลยค่ะ แต่ว่าวิวทิวทัศน์ที่เห็นจะเป็นวิวน้ำนะคะ

lonelyplanet.com

11. Poshtel
มาจากคำว่า posh ซึ่งแปลว่ามีระดับ + hostel ลักษณะคล้าย Hostel มีแนวคิดมาจากโรงแรม ราคาไม่แพง และจะหรูหรามากกว่า Hostel และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ผู้เข้าพัก เช่น Wi-Fi ฟรี

woodworkerz.com

12. Log Cabin
เป็นที่พักบ้านไม้ขนาดเล็กและมักจะพบในบริเวญที่เป็นป่า ดังนั้น ส่วนมากจึงเป็นนักท่องเที่ยวที่มากตั้งแคมป์หรือว่าเดินป่านั่นเอง

spellegriniliving.squarespace.com

13. Chalet
เป็นที่พักอีกประเภทที่ทำจากไม้ มักจะอยู่ในพื้นที่ที่เป็นภูเขา โดยเฉพาะในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่สิ่งที่แตกต่างจากบ้านพักไม้ทั่วไป คือมีชายคาบ้านที่ยื่นออกมาข้างๆ และข้างหน้า แนะนำให้มาช่วงหิมะตกจะสวยมากค่ะ

ideaboz.com

14. Cottage
หรือ กระท่อมนั่นเอง เป็นบ้านพักที่มีขนาดเล็กๆ มักตั้งอยู่ไกลตัวเมืองหรือในชนบท มักจะอยู่ในพื้นที่ทำฟาร์ม แต่บางแห่งก็ติดกับทะเลหรือแม่น้ำใครชอบธรรมชาติแนะนำเลยค่ะ

home-designing.com

15. Villa
มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีอุปกรณ์ต่างๆ ครบครัน  ทั้งสระว่ายน้ำ ครัว ผู้ที่มาพักที่นี่มักจะเป็นกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว เพราะสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวค่ะ


            นี่คือคำศัพท์ที่น่ารู้สำหรับที่พักต่างๆ ค่ะ ส่วนใครที่สนใจเรียนที่อเมริกา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อีเมล enroll@khonthaiamerica.com หรือทาง Inbox https://www.facebook.com/KhonThaiAmerica ทางเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนอยู่ตามเมืองต่างๆ

เช็ครายชื่อเจ้าหน้าที่ ที่นี่  http://khonthaiamerica.com/services/khon-thai-america-staff/

โดย Ice : KhonThaiAmerica
เรียบเรียงจาก
https://www.dek-d.com/studyabroad/53297/