แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่อเมริกา : Intrax San Diego (Stafford House)

LinZ

สืบเนื่องจากทาง Intrax  (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Stafford House แล้ว) ได้แจ้งโปรโมชั่นใหม่ของ Intrax San Diego กับ San Francisco มา เราก็เลยบอกว่า San Diego เป็นเมืองที่น่าสนใจนะตัวเราเองก็ยังอยากไปเที่ยวอยู่เหมือนกัน ทาง Intrax จึงชวนทางเรา ไปเยี่ยมชมรร. ของ Intrax ที่ San Diego  โดยจะให้เราลองไปนั่งเรียนที่นั้นฟรี แถมให้ที่พักเราฟรีด้วย (อุ๊ยๆๆ ดีจังเลยยยย )  พอทางเค้าชวน เราก็รีบไปขออนุญาตหัวหน้าทันที

หัวหน้าบอกว่า จะไปก็ได้ แต่ต้องไปทำงานด้วย โดยการไปเก็บข้อมูลที่ San Diego เพื่อมาเป็นข้อมูลให้ นร.ที่สนใจไป พอหัวหน้าอนุญาตนี่ดีใจมากกก จะได้ไปเที่ยวแล้ววววว เอ้ย ไปทำงาน ><

ทริปนี้ กะว่าจะเก็บข้อมูลของ San Diego มาให้เยอะที่สุด ได้ยินกิติศัพท์มานานแล้วว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่มากใครไปก็ติดใจ ต้องขอลองซักหน่อย อิอิ (สามารถอ่านเรื่อง San Diego ในกระทู้นี้นะคะ San Diego เมืองสำหรับวัยรุ่นโดยแท้จริง กระทู้นี้ขอพูดถึง Intrax ก่อน อิอิ)

เนื่องจากมีเวลาน้อย เราเลยขอเข้าร่วมชมการเรียนการสอนมันทุกวิชาเลย จะได้เอามาเขียนรีวิวได้ เวลา น้องๆถาม จะได้ตอบถูกว่าแต่ละวิชาเรียนอะไรยังไง ต่างกับที่ Chicago ยังไง

เกริ่นยาวไปแล้ว มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ^ ^

ผู้ดูแลประจำ San Diego

คุณนัท และนักเรียน Khon Thai America ที่ Intrax San Diego

คุณนัท (คนขวาสุด) จะเป็นคนดูแลนักเรียนของ Khon Thai America ที่เดินทางมาเรียนที่ San Diego นะคะ คุณนัทจะไปรับที่สนามบินและพาไปเปิดบัญชีธนาคาร พาไปซื้อของใช้จำเป็น และสอนขึ้นรถไปโรงเรียนด้วยค่ะ คุณนัทใจดีค่ะรับรองได้ พาน้องๆไปเที่ยวประจำช่วงวันหยุด มีปัญหาอะไรปรึกษาพี่เค้าได้เลยค่ะ


รถรับส่ง

ตอนเราเดินทางไปถึง San Diego ทาง รร.ก็ให้คนมารับเราด้วย เป็นหนุ่มฝรั่งรูปหล่อ คิคิ (ในรูปอาจจะไม่หล่อนะ แต่ตัวจริง เค้าหล่อกว่านี้อ๊า ><)  ถ้าสมัครเรียนกับทาง Khon Thai America ทางเรามีคนไทยช่วยดูแล ไปรับ-ส่งฟรีจ้า เป็นบริการพิเศษจากทางเราค่ะ

จริงๆเค้าหล่อแล้วหุ่นดีกว่าในรูปนะ แต่กล้องเราทำไมถ่ายออกมาเป็นตาลุงอวบๆได้ไม่รู้

ที่พัก

ที่พักที่ทาง Intrax จัดให้ เป็นโรงแรมกึ่งหอพักนักเรียน คือ เค้าก็มีแขกทั่วไปแหละ แต่ส่วนใหญ่จะเป็น นร.ที่มาเรียนที่ San Diego นร.ของ Intrax หลายคนก็พักที่นี่ รวมถึงน้องๆที่มากับทาง Khon Thai America ด้วย ทางเราจัดให้น้องๆพักที่นี่เนื่องจากราคาที่ไม่แพงมาก และเค้ามีบริการจับคู่รูมเมทของนักเรียนต่างชาติให้ด้วย สำหรับที่ นร.ที่ไปคนเดียวไม่มีเพื่อนแชร์ ราคาต่อเดือนแค่ $595/เดือน (เรทนี้ เป็นเรทราคาปี 2014 ที่ทาง Khon Thai America ติดต่อให้นะคะ ถ้าเป็นของ รร. หรือที่ เอเจนซี่อื่น ต้องเช็คราคาใหม่อีกทีนะจ๊ะ) ถ้าเป็นราคานี้ถือว่าราคาไม่แพงเลย หรือเราจะเลือกอยู่ห้องเดี่ยวก็ได้ แถมใกล้ รร.มาก เดินไป ประมาณ 6-7 นาทีก็ถึงแล้ว

อันนี้เป็นภาพห้องเดี่ยวขนาดเล็กที่เราได้ไปพัก ห้องโทนเขียวขาวน่ารักเชียว


มีอ่างล้างจาน ไมโครเวฟ ทีวี LCD จอแบน จานชาม ช้อนส้อม ตู้เย็นเตรียมไว้ให้ด้วย
ทีวีเป็นเคเบิ้ล มีช่องท้องถิ่น ข่าว ดูละครได้ มีหลายช่องให้เลือก ชอบมาก เปิดทีวีไป ดูข่าว ดูละครไป
ทำนั้นโน้นนี่ไป ช่วยฝึกภาษาไปด้วยในตัว




ห้องน้ำสะอาด มีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดเท้าไว้ให้ แต่ไม่มีอ่างล้างหน้า
ต้องไปล้างหน้าแปรงฟันตรงอ่างล้างจาน ^ ^" แต่ก็สะดวกดีไม่มีปัญหาอะไร

ในห้องมีห้องน้ำในตัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ อ่างล้างจานให้ด้วย ห้องจัดแต่งได้น่ารักทีเดียว ของเราเป็นห้องเดี่ยวขนาดเล็ก สำหรับเราก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว มีแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดให้เดือนละ 2 อาทิตย์ แม่บ้านค่อนข้างดูแลเอาใจใส่ดีช่วยเหลืออะไรเราหลายอย่างเลยระหว่างที่เราพักอยู่ที่นั้น แต่บางทีอาจจะมีเสียงดังบ้าง จากการที่ห้องข้างๆ มาเคาะประตูเรียกกัน หรือคุยกันแถวหน้าห้อง แต่ถือว่าประทับใจนะกับห้องพัก


ความรู้สึกแรกที่ย่างกรายเข้าไปที่ Intrax San Diego

ชอบอาคารเรียนนะ นอกจากจะอยู่ใกล้ที่พักเราแล้ว (เดินไป 6-7 นาทีเอง) สถานที่ยังดูดีกว่า สาขา Chicago ตอนที่เราเรียนด้วย แบบว่า โหย สวยอะ แต่ตอนนี้  Chicago เค้าย้ายสถานที่ใหม่ ใหญ่กว่าเดิมแล้ว น่าจะคล้ายๆกับที่นี่มั๊ง

ล๊อบบี้ โซนนั่งเล่นจ้า


ทางเดินไปห้องเรียน


รายชื่อ จนท.


บอร์ดกิจกรรม

        


ตู้กดน้ำ-ขนม รับแต่เงินสด -..- เผลอเอาบัตรไปเสียบอายจัง





ห้องคอมพิวเตอร์

นร.ที่นี่ ส่วนใหญ่เป็น บราซิลจ้า ดังนั้น หนุ่มหล่อ สาวสวย ตรึม ละลานตาจริงๆ อาหารตาเพียบชอบ อิอิ


ปฐมนิเทศ

เราเข้าไปร่วมนั่งฟังการปฐมนิเทศแบบ นร.คนอื่นๆ จะมี จนท.มาแนะนำกฏและข้อกำหนดต่างๆไม่ต่างกันกับที่ Chicago ออ ต่างตรงนึง ตรงที่เราฟังรู้เรื่องกว่าเดิมเยอะเลย อิอิ (ก็ตอนมาใหม่ๆ ภาษามันด๋อยมาก จนไม่คิดว่าจะมีวันที่คุยกับฝรั่งรู้เรื่อง อิอิ)

จนท.มาอธิบายเรื่องต่างๆที่เป็นประโยชน์กับ นร.ที่เข้าเรียนวันแรก

ไปขอเค้าถ่ายรูปมา อิอิ อันนี้ นร.ที่มาปฐมนิเทศวันเดียวกันกับเรา

เวลาเรียน

เวลาเรียนที่นี่จะต่างจากที่ Chicago ตรงที่ ช่วงวิชา Elective Class จะคาบเกี่ยวกับ ชม.เรียนคาบบ่าย ที่นี่ตอนบ่ายเริ่มเรียน บ่ายโมง ต่างจาก Chicago  ที่เรียนคาบบ่ายตอนบ่าย 2 โมง ทำให้ คนที่ลงเรียน Elective Class ( หรือลงเรียนแบบ 25-30 Lesson) จะได้เรียนช่วงเช้า ส่วนคนที่ลงเรียนแบบธรรมดา ( 20Lesson ) จะได้เรียนช่วงบ่าย



General English Class

คลาสที่เราเข้าไปเป็นคลาส เลเวล 4 หนังสือเรียนที่ใช้ต่างจากที่เคยเรียนตอนที่เราเรียน Chicago รู้สึกว่าหนังสือเรียนเค้าจะมีการปรับปรุงทุกปี เนื้อหาในหนังสือเลยค่อนข้างทันสมัยพอสมควร

เนื้อหาทันสมัยมาก และน่าสนใจ สามารถนำมาเป็นหัวข้อในการพูดคุยได้สนุก

แล้วเราชอบหนังสือเรียนของ Intrax มากจุดนึงตรงที่ บทเรียนเค้ามีการ ย้อนใช้คำศัพท์ หรือ เนื้อหาบางส่วนของบทเรียนก่อน เป็นการทวนทำให้พอเราใช้ซ้ำบ่อยๆ แล้วเราสามารถจำได้เองโดยอัตโนมัติ ต่างจากหนังสือเรียนที่อื่นๆที่เคยเจอ ที่จะ จบบทแล้วจบไปไม่มีการทวน ส่วนเราก็คืนอาจารย์ไป ลืมไปเลย T^T

อาจารย์ผู้สอนน่ารัก ค่อนข้างเป็นกันเองกับนักเรียน จากที่นั่งคุยกับอาจารย์ อาจารย์เป็น อาจารย์สอนที่นี่ San Diego มานาน 14 ปีแล้ว เห็นบอกสอนตั้งแต่ลูกอยู่อนุบาลยันเข้ามหาวิทยาลัย ^ ^" อาจารย์ค่อนข้างใส่ใจ นร. ในขณะที่ให้ นร.จับคู่พาร์ทเนอร์ทำแบบฝึกหัด อาจารย์จะคอยฟัง นร.ทุกคนที่พูดกับเพื่อนด้วย แล้วก็คอยแก้ หรือแนะนำด้วย (นั่งตั้งห่าง ยังได้ยิน เก่งมาก ^ ^") คอร์สนี้นอกจากจะสอนพื้นฐานแกรมม่าแล้ว ยังช่วยให้เราได้ฝึกพูดด้วย เพราะอาจารย์จะพยายามให้เราพูดบ่อยๆ พูดเรื่อยๆกับเพื่อน ทุกคนในคลาสดูมีความมั่นใจในการพูดคุยกัน บรรยากาศค่อนข้างสนุกสนานทีเดียว

สรุป คอร์สนี้ เราว่าคล้ายๆที่เรียนที่ Chicago อาจารย์ใส่ใจ แล้วก็เป็นกันเองดีจ้า

ปล่อยให้ทำแบบฝึกหัดในห้อง

โน๊ตที่ อาจารย์เขียนถึง นร.แต่ละคน ว่าได้เกรดเท่าไหร่ มีอะไรควรปรับปรุงบ้าง

คอร์สต่อไปข้างล่าง ผู้เขียนไม่เคยเรียนที่ Chicago ดังนั้นจะไม่มีการเปรียบเทียบให้ฟังนะคะ แต่จะเล่าคร่าวๆว่าเป็นไงบ้างจ้า


Busines English Class

คลาสนี้ เน้นสอนศัพท์ทางด้านธุรกิจ เนื้อหาที่สอน จะมีทั้ง Grammar Speaking Reading Writing Case Study ซึ่งเนื้อหาต่างๆจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจทั้งนั้น ซึ่งคนที่จะเรียนคลาสนี้ได้ต้องมีเลเวล 5 ขึ้นไปถึงจะเรียนได้ แต่ขอบอกว่าหลังจากมาเรียนคลาสนี้แล้ว แนะนำว่าคนที่จะเรียนควรจะมีพื้นฐานทางด้านธุรกิจมาพอสมควรนะคะ ไม่งั้นอาจจะมึนได้กับศัพท์เทคนิคต่างๆในภาษาธุรกิจ ขนาด ผู้เขียนเคยเรียนมาบ้างแล้ว ยังถึงกับมึน เพราะผ่านมานานแล้ว คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว ^ ^"

เช่น Cash flow  (กระแสเงินสด) Depreciation Expenses (ค่าเสื่อมราคา) ในหนังสือเรียนจะมีตัวอย่างตารางทางบัญชีมา แล้วให้เราดูว่า อันไหนเรียกว่าอะไร T^T ภาษาไทยยังมึน มาเจอภาษาอังกฤษอีกเง้อ

แต่ เดี๋ยวก่อน แม้จะกำลังนั่งมึนๆกับศัพท์เทคนิคต่างๆ แต่อาจารย์ก็มีเทคนิคที่ช่วยให้เราจำง่าย และรู้สึกสนุกกับการเรียนแหะ

เจ้าตัวช่วยคือ Quizlet.com (free learning tools for students and teachers)

เจ้าตัวนี้คล้ายๆกับ Social แบบใหม่ที่เป็นสื่อการสอน ตัวช่วยจำ และเกมส์ สำหรับ นักเรียนและ อาจารย์ ระหว่างเรียน คำศัพท์ไหนที่เราไม่เข้าใจ อาจารย์จะเขียนคำศัพท์ต่างๆ พร้อมคำแปลลงไป ใกล้ๆเลิกคลาสจะมีการเล่นเกมส์ร่วมกัน โดยเอาคำศัพท์ต่างๆนั้นแหละ มาเล่น จะเป็นเกมส์ทายคำศัพท์ต่างๆ นักเรียนแต่ละคนจะช่วยๆกันตอบ เล่นหลายๆรอบ ช่วยให้จำศัพท์ได้ง่ายขึ้นแหะ สนุกดีด้วย

จดคำศัพท์ต่างๆพร้อมความหมายไว้ในนี้

เกมส์ที่ ความหมายของศัพท์ต่างๆที่จดไว้จะเลื่อนออกมา เราจะต้องคีย์ให้ทันว่า เป็นความหมายของคำว่าอะไร

เกมส์นี้ นร.ช่วยกันตอบ อาจารย์ช่วยคีย์  

สรุป แนะนำว่าคลาสนี้ จริงๆ น่าจะเหมาะกับ ซักเลเวล 6 ขึ้นไปน่าจะดีกว่า ถ้ายังอยู่ระดับเวล 5 มาเรียน อาจจะเกิดอาการมึนๆอึนๆได้ ^ ^" แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรียนไม่ได้นะ แต่ถ้าอยากเรียนให้สนุกและไม่รู้สึกว่าระดับตัวเองห่างกับเพื่อนมาก น่าจะรอซักเลเวล 6 แล้วค่อยมาเรียน และควรจะมีพื้นฐานทางด้านธุรกิจมาก่อนพอสมควร เพราะเค้าสอนแบบคนที่รู้เรื่องเนื้อหาทางด้านบริหารธุรกิจมาแล้ว เพียงแต่ว่ามาเสริมให้เป็นภาษาอังกฤษ

ถ่ายรูปกับนักเรียนในห้องเป็นที่ระลึก

Professional Certificate Class

แอบถ่ายรูปหนังสือคนอื่นมา แอบเยินเชียว

คลาสนี้เป็นคลาสที่เราชอบมากกก ขอบอกเลย น่าจะชอบที่สุดเท่าที่ลองเรียนมา คลาสนี้ไม่เน้นแกรมม่า แต่เนื้อหาที่เรียนจะเกี่ยวกับทางด้านบริหาร คลาสนี้ต่างจากคลาส Business English ตรงที่ตัว Business English เน้น ศัพท์เทคนิคต่างๆ แต่ คอร์สนี้ "เน้นเนื้อหา" คอร์สที่เรามาเข้าเป็นคอร์ส Management ดังนั้นเนื้อหาก็จะเกี่ยวกับการจัดการทางด้านธุรกิจ อาจารย์ที่สอนฮามากกกก แกจะแทรกมุกต่างๆตลอด ถ้าดูจากรูปจะเห็นว่า หน้าตา นักเรียนแต่ละคน ฮาแตก อาจารย์สอนสนุก ไม่น่าเบื่อเลย

อาจารย์จะมี Case Study ให้ลองคิด ลองทำกัน เช่น ระดมความคิดกันว่า คนเรามีความกลัว ปัญหา และความชอบอะไรบ้าง แล้วจะนำสิ่งเหล่านี้มาสร้างธุรกิจอะไร แล้วอาจารย์ก็จะบอกตลอดว่าพยายามคิดอะไรที่นอกกรอบ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับธุรกิจ หรือความคิดอะไรเดิมๆ

สรุปว่าชอบมากคลาสนี้ ไม่ต้องมานั่งเครียดกับศัพท์ แบบ Businese Class ^ ^"


Elective class

คอร์สที่เราเข้า เป็น Elective class สำหรับคนที่ลงเรียนแบบ 30 Lesson เป็นวิชาเรียนรู้วัฒนธรรมของคนอเมริกา แต่ เอาแบบสั้นๆง่ายๆ เที่ยวจ้า 555 วันที่เราไปอาจารย์เค้าพานั่งรถบัส ดูว่า ที่ San Diego มีร้านไหนที่น่าสนใจบ้าง ร้านดังอยู่ตรงไหน จุดไหนที่คนท้องถิ่นมักจะมากัน

อาจารย์ที่สอน ยังไม่แก่มาก เฮฮากันตลอดทาง คลาสนี้เหมาะมากกับการฝึกพูด พูดแบบชิลๆ ไร้สาระไปเรื่อย ได้เที่ยวด้วยเม้าท์กับเพื่อนไปด้วย

อาจารย์ที่พาไปมี 2 คน ยังหนุ่มๆอยู่เลย คุยสนุก ฮามาก

ร้านช๊อคโกแลตชื่อดัง (แต่แอบแพงหงะ)

สำหรับคลาสนี้จะให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องเข้าหาเพื่อนนะคะ ชวนคุย หรือจะชวนอาจารย์คุยก็ได้ ระหว่างนนั่งรถบัส เม้าท์มอยกับอาจารย์ผู้สอนก็สนุกดี ได้ฝึกภาษาแบบไม่เครียดด้วย เผลอๆจะได้เพื่อนสนิทต่างชาติด้วยการทำกิจกรรมนี่แหละ

นั่งเม้าท์มอยกันระหว่างนั่งรถบัสไปที่ต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษนะจ๊ะ

อาจารย์โชว์รูปให้ดู ว่าคราวก่อนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กัน

เราขอเค้าถ่ายรูป จากหน้าจอมือถือเค้า เค้าก็หัวเราะแล้วแอบแซวว่าเราแปลก จะส่งรูปให้ไม่เอา

จะมาถ่ายจากหน้าจอ แม๊ ก็ ต้องมีมุมมองอะไรแปลกๆกันบ้างงง เราเลยบอกเค้าว่าเราอยากทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน อิอิ

ตอนที่เราไปมีเด็กญี่ปุ่น พึ่งจะ 15 เองมาเรียนซัมเมอร์ น่ารักเชียว แถมยังคุยเก่งด้วย คลาสนี้เด็กเกาหลีจะเยอะหน่อย แต่ก็น่ารักกันดี ชวนกันคุยตลอดทาง สอนอาจารย์ เล่นเกมส์แปลกๆที่คล้ายๆ เป่ายิ้งฉุบของเกาหลี ใครแพ้ ดีดเหม่ง สรุปว่า คลาสนี้ นอกจากจะสนุก ได้ฝึกพูดยังได้ฟังวัฒนธรรมอะไรต่างๆของเพื่อนๆชาติอื่นๆด้วย




สรุปๆๆๆ สรุปเลย

ประทับใจมากจ้า ตอนอยู่ Chicago ก็ว่าประทับใจละ แต่ที่นี่ สนุกไม่แพ้กันเลย (แอบเยอะกว่า Chicago นิดนึง ตรงอาหารตาเยอะ อิอิ) น้องโบ้ท น้องต่าย น้องอัง นร.ของ Khon Thai America ทั้ง 3 คน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบมากกกกกกกกก ไม่อยากกลับไทยเลย โดยเฉพาะน้องอัง บ่นตลอดว่าไม่อยากกลับอยากอยู่นี่ต่อ เพราะน้องอังลงเรียนแค่ 3 เดือนเอง แล้วต้องกลับไทยไปเรียนต่อ

เดี๋ยวจะมาเขียนบทสัมภาษณ์ระหว่างของ นร. Khon Thai America ให้อ่านกันนะจ๊ะ อิอิ

ถ่ายรูปกับ จนท.ของ Intrax เป็นที่ระลึก

เขียน+ภาพถ่าย: โดย Lin KhonThaiAmerica.com

ถ้าใครสนใจเรียนที่สถาบันสอนภาษา สามารถติดต่อสอบถามส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษกับเราได้ค่ะ ทางเรามีส่วนลดค่าเรียนราคาพิเศษ (ถูกกว่าสมัครเรียนเองค่า) ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.khonthaiamerica.com/contacts/
หรือที่ Facebook : https://www.facebook.com/KhonThaiAmerica/

ทางเรามี จนท. คนไทยช่วยดูแลอยู่หลายเมือง สามารถตรวจสอบรายชื่อ จนท. ของเราได้ที่นี่ค่ะ http://www.khonthaiamerica.com/services/khon-thai-america-staff/

LinZ

เนื่องจากว่าไปที่ San Diego หลายวัน ได้โอกาส เลยชวนน้องๆที่มากับ khon Thai America พากันไปนั่งกินส้มตำร้านเด็ด ที่นัท (ผู้ดูแล นร.ของ Khon Thai America ที San Diego) แนะนำมาว่า เด็ดมากแซ่บสุดๆ รสชาติเหมือนที่ไทย (แล้วเราจะพลาดได้ไง) โดยเราพาน้องๆไปนั่งกินด้วยกัน พร้อมกับ สัมภาษณ์ไปด้วย ว่า มาเรียนที่นี่ รู้สึกอะไรยังไงบ้าง เนื่องจากกินไปเม้าท์มอยกันไป ถามกันแบบไม่ได้เตรียมสคลิป ใช้วิธีอัดเสียงเอา จะขอ สรุปๆบทสัมภาษณ์เอาละกันเนอะ

นัท โบ้ท ต่าย อัง ระหว่างรออาหารอีสานสุดแซ่บ

ตอนนี้เลเวลที่น้องๆเรียนกันมีดังนี้
ต่าย เลเวล 8
โบ๊ท เลเวล 7
อัง เลเวล 6

น้องๆบอกว่า เรียนที่ Intrax สนุกดี เพื่อนเยอะ ห้องเรียน แต่ละห้อง มี นร.ไม่เยอะมาก อย่างต่าย เรียนเลเวล 8 ในห้องมี 5 คน ซาอุ ชิลี ใต้หวัน ฃองโบ๊ท มี เกาหลี บลาซิล ซาอุ ญี่ปุ่น ใต้หวัน จีน ทั้งห้องมี 9 คน ส่วนห้องอังมี 11 คนในห้อง มีบราซิล สเปน ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ซาอุ

จะเห็นได้ว่าแต่ละห้องค่อนข้างจะมี นร.จากหลายชาติทีเดียว บางห้องนี่มาชาติละคนเลย เหมาะมากๆ กับการฝึกภาษา เพราะยากที่จะได้ยินภาษาถิ่น (โดยเฉพาะภาษาไทย) เพราะแต่ละคนมาจากคนละประเทศ

และเนื่องจากไม่ค่อยมีเพื่อนคนไทย ดังนั้น จึงได้มีเพื่อนต่างชาติที่สนิทๆไปเที่ยวด้วยกัน เช่นน้องต่าย มีเพื่อนจากชิลี หรือบางทีก็ไปเที่ยวกับเพื่อน บลาซิล เพื่อนเกาหลี ส่วนน้องอังนี่ก็ไป แฮงค์เอ๊าท์กับเพื่อนต่างชาติบ่อยๆ น้องโบ๊ทก็มีเพื่อนต่างชาติสนิทๆกันหลายคนในห้อง

ถามว่าชอบอะไรใน Intrax น้องๆบอกมาว่า ชอบ Speaking Class ชอบ เสียงมาจากน้องซักคนแว่วๆว่าชอบ Staff (พร้อมทำเสียง กรุ้มกริ่ม) ชอบ ที่มีกิจกรรมเยอะ ทำให้ได้เพื่อนต่างชาติ โบ้ทบอกว่ามัน Make friend ง่าย

โบ้ทบอกว่า ตอนโบ้ทมา โบ้ทอยู่เลเวล 4 ไม่นานก็สอบย้ายมาเลเวล 5  ระหว่างเรียนเลเวล 5 ค่อนข้างสนิทกับเพื่อนหลายคน รู้สึกสนุกมาก อาจารย์ที่ชอบที่สุด บอกว่าชื่อ เจนนิเฟอร์

อังบอก อังพึ่งมาเรียน ได้เจออาจารย์ แค่ 2 คน เจอ สตีฟ กับ โมนิกา อังบอกว่า คนชื่อ โมนิกา ใส่ใจดี เค้ารู้ว่า อังเป็นเอเชีย พูดไม่ทันพวกบลาซิล เค้าก็จะพยายามถาม เพื่อให้เราได้ฝึกพูดเยอะๆ

ส่วนต่าย บอกว่า เจออาจารย์คนเดียวชื่อ โมนิก้า เพราะพอต่ายย้ายเลเวล อาจารย์ก็ได้ย้ายพร้อมกันพอดี แต่เห็นบอกว่า ชอบเนื้อหาของตอนเลเวล 7 มากกว่า

ส่วนพอถามถึง San Diego ว่าชอบตรงไหน ตอบแทบจะพร้อมกันเลยว่า ชอบอากาศ อากาศดี แล้วก็พูดเม้าท์มอยกันเรื่องอากาศว่าชอบมาก นัทแอบแซวกันเองนะ ว่าหน้าม้าสุดๆ 555

น้องๆหัวเราะกันร่วน แล้วช่วยกันแย้งมาว่า  แต่ตอบจริงนะ อยู่นี่แล้วสบาย อังบอกไม่อยากกลับเลยยยย (พอดีน้องเค้ามาเรียนระยะสั้นๆช่วงปิดเทอม) อังบอกเอาไว้เรียนจบแล้วขอแม่มาใหม่


มื้อนี่ เลยทั้งอิ่ม อร่อย เม้าท์มอยกันสนุกสนานกันเลยทีเดียว

สรุปว่าน้องๆแต่ละคน ประทับใจทั้ง Intrax แล้วก็ San Diego พอเราเห็นน้องๆมีความสุข เราก็รู้สึกมีความสุขไปด้วยเลยที่ได้เป็นส่วนนึงที่ช่วยให้เค้าได้พบเจอกับประสบการณ์ดีๆในการมาเรียนที่อเมริกา ^-^

LinZ

สำหรับใครที่กังวลเรื่องการเดินทางใน San Diego

ที่นี่ไม่ได้เดินทางยากอะไรอย่างที่คิด แค่รถอาจจะมาไม่ถี่เท่าไหร่ ถือว่าไม่ได้ลำบากอะไรมาก แต่จริงๆถ้าจะให้แนะนำ สำหรับคนที่ขับรถเป็น
ถ้ากะอยู่นานก็ซื้อรถได้เลย ที่นี่รถมือ 2 ถูกๆเยอะมากกกก หรือจะเช่ารถก็ได้ ราคาก็พอๆกับผ่อนรถเอง แถมราคารวมประกันแล้ว ถูกสุดๆ
ราคาเช่าไปต่อรองกับเค้าเอาได้ เดือนละ 300 กว่าเหรียญเอง  หรือจะใช้บริการเจ้า car2go ก็ได้ ถ้ามีรถ จะไปเที่ยว หรือพักที่พักไกลๆก็ไม่มีปัญหา ที่จอดรถที่ San Diego ก็ไม่ได้หายากแบบเมืองใหญ่ๆเมืองอื่นด้วย จะทำอะไรก็สะดวก กลับบ้านดึกก็ไม่ต้องกังวลว่ารถจะหมด

ส่วนใบขับขี่ก็สามารถใช้ใบขับขี่ไทย ตัวที่มีภาษาอังกฤษได้เลย หรือจะสอบเอาใหม่ที่นี่ก็ได้ รถเช่าสะดวกมาก สำหรับคนมาระยะสั้น ถ้ามากับเพื่อนก็ช่วยกันหารๆกับเพื่อนก็ได้ ไปไหนไปด้วยกันก็ประหยัดดีนะ

แผ่นโฆษณา เห็นโชว์อยู่ที่ รร.


ทำไม Chicago ไม่เห็นมีงี้บ้างหว่า มีแต่รถให้เช่ารายวันแพงอะ (รายเดือนก็แพง)