KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 21099|ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

คำถามที่ไม่ควรถามฝรั่งโดยเด็ดขาด

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8


shut-up-tape-on-girls-mouth-graphic.jpg


      การที่จะคุยกับชาวต่างชาตินั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะจะได้ฝึกภาษาอังกฤษอย่างธรรมชาติที่สุด  นอกจากนี้แล้วยังเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมคนต่างด้าว ไม่ใช่เรื่องภาษาอย่างเดียว แต่บางครั้งสิ่งที่ถือว่า โอเค ที่จะถามถึงภายในกรอบแห่งวัฒนธรรมไทยถือว่าอาจไม่เหมาะที่จะถามชาวต่างชาติ ดังนี้


1. Do you have a girlfriend/boyfriend?

คนไทยชอบตั้งคำถามนี้เป็นคำถามที่สองหรือสามหลังจาก What’s your name? ถือว่ารีบเหลือเกิน อาจทำให้ชาวต่างชาติคนนั้นตกใจ วิ่งหนีคุณเพราะยังไม่พร้อมที่จะพบคุณพ่อคุณแม่คุณ คุณสามารถตั้งคำถามนี้ได้หลังจากที่คุยนานพอสมควร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
เช่น
            Did you bring your girlfriend with you?
            (คุณพกแฟนมาด้วยหรือเปล่าคะ)
            Are you here alone?
            (คุณมาที่นี่คนเดียวไหม)
            Do you have any children?
            (คุณมีลูกหรือยัง … คนโสดจะรีบตอบ Oh no. I’m not married. ซึ่งชัดเจน ตรงกับสิ่งที่คุณอยากได้ยิน)
            What does your boyfriend/girlfriend do?
            (แฟนคุณทำงานอาชีพอะไร ชัดเจนอีกครั้งว่า คุณกำลังสอบสวนเรื่องแฟนของเขา)
            ในที่สุดพอรู้จักคนนั้นอย่างดี ถึงเวลาที่คุณน่าจะพูดทำนองว่า
            I don’t have a boyfriend/girlfriend. And you?
            (ดิฉันไม่มีแฟนค่ะ แล้วพี่ล่ะคะ)

2. Are you gay?

เรื่องนี้อย่านะ อย่ารีบแตะ อย่ารีบถามเหมือนกัน ถ้าเดาจากพฤติกรรมของเขาไม่ถูก รอสักพักก่อนถาม แต่ที่จริงไม่ควรถามเพราะ
             2. a. ถ้าเขาไม่เป็นเกย์เขาต้องเสียความรู้สึกแน่ๆ คืนนี้เขาต้องกลับห้องพักนั่งพิจารณาตัวเองอย่างหนัก ว่า “ผมดูเหมือนเป็นเกย์หรอ”
            2. b. เขาอาจเป็นเกย์ แต่ยังไม่ได้เปิดเผย การถามของคุณจะยิ่งทำให้เขาไม่อยากออกลาย เพราะไม่ชอบการซักถามอย่างตรงไปตรงมาอย่างที่คุณถาม
            2. c. เขาอาจคิดว่า การที่เขาเป็นเกย์ หรือไม่เป็นเกย์นั้นไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ หรือไม่ก็ ทำไมคุณต้องรีบถามเหมือนเป็นประเด็นใหญ่ (ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วอาจใหญ่จริงๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้หญิงพยายามจีบผู้ชายคนนั้น)
            สรุปว่า อย่าเพิ่งถาม รอให้เขาเสนอข้อมูลนี้ก่อน

3. What’s your salary? How much?

คนไทยชอบถามเรื่องเงินกับชาวต่างขาติที่เขาเพิ่งพบ คือ

             What’s your salary?
(เงินเดือนของคุณเท่าไร … เจ้าของภาษาไม่ค่อยใช้รูปประโยคนี้ ที่ธรรมชาติมากกว่านี้คือ How much do you make? ซึ่งความหมายเหมือนกัน)
            ชาวต่างชาติถือว่า เรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องส่วนตัวก็เลยไม่ใช่ธุระอะไรของคุณที่จะรู้
และไม่ใช่เรื่องเงินเดือนเท่านั้น อย่าไปถามว่า เพชรพลอย นาฬิกาข้อมือ กางเกงยีนส์ ที่เขาสวมใส่ราคาเท่าไร อย่างนี้น่าเกลียดเหมือนกัน ถามแบบนี้ทำให้ชาวต่างชาติคิดว่า พระเจ้าที่คุณบูชานับถือสูงที่สุดคือ เงินตราบาท มากกว่าพระองค์อื่น คนนิสัยอย่างนี้ไม่มีใครอยากคบ

4. How much do you weigh?

ฝรั่งทราบดีว่าเขาตัวใหญ่กว่าคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลที่ชัดเจนแบบนี้ทำให่คุณมีสิทธิถามว่า คุณน้ำหนักเท่าไหร่ ขอเรียนให้ทราบว่าคุณจะไม่อยู่ใกล้ชิดกับฝรั่งคนใดด้วยคำถามนี้ เป็นเรื่องส่วนตัว

5. Why are you so fat? Why is your nose so big? Why are you so short?

เหลือเชื่อ คนไทยหลายคนจะสังเกตอะไรเกี่ยวกับลักษณะภายนอกของเพื่อนฝรั่งคนใหม่และก็ถามถึงสิ่งนั้น  อย่างเช่น ฝรั่งตัวเตี้ย คนไทยจะบอกเขาว่า You’re very short. หรือถามว่า Why are you so short? เหมือนกับว่าคนนั้นไม่รู้เองว่าเตี้ย
ในคำถามกลุ่มนี้ก็ยังมี
            Why are you so fat?
            (ทำไมอ้วนจัง)
            Have you ever thought about doing some exercise?
            (คุณเคยคิดจะออกกำลังกายไหมครับ)
            Why is your nose so big?
            (ทำไมจมูกโดงล่ะ)
            Have you ever had cosmetic surgery?
            (เคยทำศัลยกรรมไหม)
            หลีกเลี่ยงพวกนี้หมด ไม่ใช่หลีกเลี่ยง ตัดทิ้งดีกว่า


6. Oh you're pregnant!

นี่ก็ห้ามพูด นอกเสียจากว่าคู่สนทนาท้องโตจนเห็นได้ชัดว่าท้องจริงๆ เพราะถ้าหากเป็นการเข้าใจผิดของคุณฝ่ายเดียวแล้วล่ะก็ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดูถูกกันอย่างยิ่งเพราะแสดงว่าคุณเห็นว่าคู่สนทนาอ้วนขึ้นนั่นเอง ดูคำอธิบายข้างบน

7. Is this your daughter?

แหม...แล้วจะทำยังไงถ้าพูดออกไปอย่างนั้นแล้วความจริงกลับกลายเป็นว่าฝ่ายหญิงเป็นแฟนสาวของเขาต่างหาก? หลีกเลี่ยงการสันนิษฐานเอาเองเรื่องความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันของคนอื่นแต่ควรรอให้ใครมาแนะนำให้รู้จักกันก่อนดีกว่า หรือถ้าคุณจะกล้าหน่อยก็เข้าไปแนะนำตัวเองก่อนเลยก็ได้

8. Your sister is so much prettier than you.

ถึงแม้ว่าข้อสังเกตอย่างนี้จะถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างมากในวัฒนธรรมของบางประเทศ แต่มันอาจทำให้คนฟังเสียความรู้สึกและขายหน้า ตามมารยาทที่ดีไม่ควรจะเปรียบเทียบอย่างนั้น  ถ้าคุณอยากพูด ก็ให้พูดแค่เพียงว่าพี่สาวหรือน้องสาวของเขาสวยมากก็พอ

9. That color doesn't suit you.

การพูดเกี่ยวกับหน้าตาและการแต่งกายของใครในทางลบอาจมีผลให้คนนั้นเสียอารมณ์ไปเลยก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเขาหรือเธอเสียทั้งเวลาและเงินทองไปไม่น้อยกว่าจะดูดีขนาดนั้น พยายามทำให้คนอื่นรู้สึกดีใจและภูมิใจดีกว่าซึ่งทำได้โดยการเอ่ยชมเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับชิ้นที่คุณชอบ


10. You look sick.

ถ้าพูดตรงๆ โผงผางอย่างนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการดูถูกกันแน่นอน ถ้าคุณเห็นใครท่าทางหน้าตาดูไม่สบาย คุณควรใช้คำถามว่า "Are you feeling ok?"

11. How old are you?

อายุเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างอ่อนไหวและมีคนอีกมากมายที่ไม่ชอบเปิดเผยให้คนอื่นรู้อายุของตนเอง หลีกเลี่ยงการเอ่ยคำถามนี้ นอกเสียจากว่าคุณกำลังคุยกับเด็ก 6 ขวบ เพราะเด็กขนาดนี้ชอบเหลือเกินที่จะบอกให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองมีอายุเท่าใดแล้ว!



      นี่คือคำถามที่ไม่ควรถามฝรั่งเวลาเจอกันครั้งแรกนะคะ เพราะเค้าจะถือว่าเสียมารยาทมากๆ มารยาทสากลที่ดีโดยทั่วไปก็คืออย่าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมากนักและอย่าพูดถึงคนอื่นหรือตั้งข้อสังเกตในด้านลบค่าาา

ขอบคุณที่มา http://ontheroadtoasean.com/abalearnenglish/?p=348
http://www.bloggang.com/viewdiar ... group=5&gblog=2
รับให้คำปรึกษาและช่วยดำเนินการเรื่องการทำวีซ่านักเรียน (อเมริกา)
โพสต์ได้ถูกลบไปแล้ว
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-11-29 02:41 , Processed in 0.037478 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน