ติดป้ายชื่อด้านในกระเป๋าด้วย
แปะชื่อและวิธีติดต่อไว้ด้านในของกระเป๋าเดินทางด้วยอย่างเช่นในช่องซิปด้านนอก รวมถึงใส่สำเนาตั๋วเครื่องบินไว้ด้วยเผื่อกระเป๋าสลับกับใครไป คนนั้นจะได้ติดต่อเราได้
แปะเทปสีไว้ที่กระเป๋า
กระเป๋าเดินทางส่วนมากก็จะคล้ายๆ กันหมด เวลายืนรอรับกระเป๋าที่สายพานบางทียังต้องก้มไปอ่านป้ายก่อนว่าใช่ชื่อเราหรือไม่ ฉะนั้นถ้าหาเทปสะท้อนแสงสีเด่นๆมาแปะไว้ที่ตัวกระเป๋า หรือจะพันรอบมือจับก็ช่วยให้เห็นกระเป๋าเราเด่นมาแต่ไกล และก็ควรพกเทปม้วนนี้ติดตัวไปด้วยนะคะเวลาอยู่หอพักหรือต้องแชร์ห้องกับคนอื่นก็สามารถใช้เทปนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวน้องได้ค่ะ ซื้อของกินของใช้อะไรมาส่วนตัวก็แปะได้เลย
ถ่ายรูปกระเป๋าเก็บไว้
หลังจากติดป้ายชื่อและทำสัญลักษณ์บนกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้ค่ะ นอกจากจะเก็บภาพไว้ในกล้องดิจิตอลและในโทรศัพท์แล้ว ถ้าอัดภาพทันก็ควรทำนะคะ แล้วเก็บรูปไว้ในหนังสือเดินทางถ้าหากระเป๋าเดินทางไม่เจอ ก็สามารถนำรูปไปให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลยค่ะง่ายกว่าการพยายามอธิบายให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างตั้งเยอะ (ถ้ากระเป๋ามีตำหนิเช่นบุบหรือมีรอยตรงไหน ก็ถ่ายจุดนั้นไว้ด้วยชัดๆ ค่ะ)
แกะป้ายเก่าๆ ออก
เมื่อเรานำกระเป๋าเดินทางไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินเจ้าหน้าที่จะพิมพ์รหัสและบาร์โค้ดออกมาพันรอบหูกระเป๋าให้ และส่งสติ๊กเกอร์ที่มีข้อมูลเดียวกันให้เราเก็บไว้(baggage identificationtag) เราต้องเก็บใบนี้เอาไว้ให้ดีจนกว่าเราจะถึงปลายทางและได้รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เพราะถ้ากระเป๋าหายการที่มีใบนี้จะช่วยได้มากเลยค่ะ
แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น กระเป๋าเดินทางไม่ได้หายไปไหนก่อนจะขึ้นเที่ยวบินขากลับก็อย่าลืมแกะป้ายบาร์โค้ดที่พันรอบหูกระเป๋าออกนะคะเพราะเมื่อเราเช็คอินขากลับ เจ้าหน้าที่ก็จะพิมพ์รหัสใหม่ให้อีกค่ะการแกะป้ายเก่าๆ ออกก็ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวกมากขึ้นและลดโอกาสที่กระเป๋าจะไปโผล่ผิดที่ได้ด้วยค่ะ
แต่ถ้ากระเป๋าหายไประหว่างทางแล้วล่ะ
ถ้ากระเป๋าเดินทางมาครบหมดแล้ว แต่ไม่มีของเรา ก็มองไปรอบๆหาเคาน์เตอร์ของสายการบินที่เราเพิ่งโดยสารมา หรือไปตามป้าย Lost Baggage/Luggage ก็ได้ค่ะเสร็จแล้วก็บอกเจ้าหน้าที่พร้อมให้ดูสติ๊กเกอร์ที่มีรหัสพร้อมบาร์โค้ดที่ได้มาตอนเช็คอินกระเป๋าค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบให้เองบางทีกระเป๋าของเราอาจจะกำลังอยู่บนเที่ยวบินถัดไปก็ได้ค่ะ
ถ้ากระเป๋าของเราไม่ได้กำลังตามมา
เจ้าหน้าที่ก็จะเช็คย้อนไปเรื่อยๆ เองค่ะ ว่ามันหายไปช่วงไหนหรืออาจจะส่งคนไปดูตามสายพาน อื่นๆ ให้ก็ได้ทีนี้การยื่นรูปกระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ก็จะช่วยได้มากเลยค่ะนอกจากนี้ก็ควรเตรียมตั๋วเครื่องบิน รวมถึงแผนการเดินทางให้พร้อมเพราะจะต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งกระเป๋าหาย แล้วอย่าลืมให้ที่อยู่และวิธีติดต่อไว้ด้วยเพื่อที่สายการบินจะได้ส่งกระเป๋าเดินทางตามมาให้เราได้ถูกที่ค่ะ
ถ้าสายการบินหากระเป๋าไม่เจอ
ทุกสายการบินจะมีนโยบายคล้ายๆ กัน นั่นคือพยายามหาของที่ใกล้เคียงมาให้หรือให้เป็นเงิน แต่ว่านโยบายเหล่านี้ก็มีข้อจำกัดว่าชดเชยได้สูงสุดไม่เกินกี่บาทซึ่งมันก็ทดแทนกับของของเราที่หายไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไม่ต้องกังวลนะคะเพราะโอกาสที่กระเป๋าจะหายก็ต่ำกว่า 0.1% อยู่แล้วโอกาสที่หายแล้วจะหาไม่เจอยิ่งต่ำไปกว่านั้นอีกค่ะ แต่ถ้าสายการบินตรวจสอบแล้วว่ากระเป๋ามาลำเดียวกับเราแน่นอน และนำขึ้นสายพานเรียบร้อยแล้วด้วย กรณีนี้ต้องไปแจ้งตำรวจแทนค่ะเพราะแปลว่าคนอื่นเอากระเป๋าเราไปแล้ว