KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 6334|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

คำศัพท์ฮิต (ผิดๆ) ที่ติดปากคนไทย

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8



267848__26102012111646.jpg


Over

นี่มันทับศัพท์จาก overact ชัดๆ แต่ถ้าไปพูดว่า ‘โอเว่อร์’เฉยๆอาจทำให้ฝรั่งงงได้ วิธีใช้คำนี้ง่ายมากครับ ใช้เพื่อเน้นว่ามันมากจริงๆ, เยอะจริงๆ อย่าง เด็ดเวอร์! แซบเวอร์! ก็ให้เติม ‘so’ หรือ ‘way too’ ไว้ข้างหน้านิดนึงนะ เช่น

This Somtum is so spicy! (ส้มตำจานนี้เผ็ดเวอร์!)
Did you see that girl? She is way too cute! (เห้ยยย เห็นสาวนั่นมั้ย โคตรน่ารักเลยยย)

แต่เว่อร์ อีกความหมายนึงคือการแสดงอาการเกินจริง, ขี้โม้เกินไป
ถ้าเป็นการแสดงอาการเว่อร์เกินจริงก็เช่น She overacts all the time. (ชีชอบทำอะไรเว่อร์ๆตลอด) Don’t overact. (อย่าเว่อร์ให้มากนักนะ)

แต่ถ้าขี้โม้ โอ้อวด หรือ’เว่อร์’ทางคำพูดก็เช่น
A: I just got a job with decent salary, a little over 60,000 Baht.
(กุเพิ่งได้งานว่ะ เงินเดือนก็ชิวๆนะ แค่ 5 หมื่นนิดๆเอง)
B: For new graduates like you? Don’t exaggerate.
(เด็กจบใหม่อย่างเมิงเนี่ยนะ? โหย อย่าโม้ไปหน่อยเลย)

หรือ
"He said you walked 30 miles." เค้าบอกว่าคุณเดินตั้ง 30 ไมล์
"No - he's exaggerating. It was only about 15." ไม่หรอก เค้าพูดเว่อร์ (เกินจริง) มันก็แค่ 15 ไมล์เอง
ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า เธอพูดเว่อร์น่ะ ก็บอกว่า You're exaggerating. หรือจะบอกเค้าว่า อย่าพูดเว่อร์ๆ น่ะ อาจใช้ว่า Don't exaggerate. ส่วนอาการเว่อร์อีกแบบคือการทำเกินจริง เราจะใช้คำกิริยาที่ว่า "overact" เช่น You're overacting. เธอทำเว่อร์เกิน (แสดงอารมณ์เกินจริง)

>>สรุป<<
overact (โอว-เฟอร์-แอ็คท์) กับ exaggerate (เอ็ก-แซจ-เจอ-เรท) สองคำนี้เอาไว้ใช้เบรคพวกขี้อวดทั้งหลาย หรือคนที่ชอบทำตัว พูดจาโอเว่อร์เกินจริง ทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรเลย

Freshy

ศัพท์ที่ถูกต้องสำหรับ ‘เด็กปีหนึ่ง’ คือ Freshman นะ ไม่ใช่ Freshy! เด็กมหาวิทยาลัยคงคุ้นเคยกับคำนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเคยได้ยินผ่านกิจกรรมต่างๆเช่น กีฬาเฟรชชี่ (Freshman Sports) กิจกรรมเด็กปีหนึ่ง (Freshmen Activities) ถึงจะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็อยากให้เปลี่ยนมาใช้ Freshman  เช่น บอกอาจารย์ฝรั่งว่าอยู่ปี 1 ต้องพูดว่า “I’m a freshman.”
ส่วนปี 2, 3, 4 ก็เป็น Sophomore, Junior, Senior ตามลำดับเลยจ้า
สำหรับ ‘ปีเป้อ’ ก็ต้องเรียกว่า ‘Super Senior’ นะจ๊ะ

In trend

เวลาที่เราต้องการพูดว่า ‘มันทันสมัย’ ส่วนมากก็คงพูดทับศัพท์ไปเลยว่า อินเทรนด์สุดๆ ไม่ได้นะๆ ขืนไปพูดกับฝรั่งได้อายกลับมาแน่ๆ ในภาษาอังกฤษมีคำว่า trendy อยู่แล้วที่ให้ความหมายเดียวกัน เช่น

Trust me bro, this hairstyle is trendy. (เชื่อพี่เหอะน้อง ตัดทรงนี้แหละอินเทรนด์สุดๆ! สาวกรี๊ดตรึม!)

หรือจะใช้คำว่า fashionable ก็โอเคนะ เช่น

I recommend this skirt. It is fashionable. (แนะนำกระโปรงตัวนี้เลยค่ะพี่ ฮ็อตฮิตสุดแล้ว ของลงวันเดียวหมดเกลี้ยงเลยนะขอบอก!)


ดูหนัง soundtrack

เวลาคุณจะบอกใครว่า ฉันต้องการดูหนังฝรั่งที่พากย์ภาษาอังกฤษ อย่าพูดว่า "I want to watch a soundtrack film." แต่ควรจะใช้ว่า "I want to watch an English film." เพราะความหมายของคำว่า "soundtrack" คือ ดนตรีที่อยู่ในภาพยนตร์ ต่างหากล่ะ

ถ้าเราจะพูดถึงหนังฝรั่งที่พากย์เสียงภาษาไทย เราต้องบอกว่า "I want to watch an English film that is dubbed into Thai." เพราะคำกิริยาว่า "dub" คือพากย์เสียงจากต้นแบบในหนังหรือรายการโทรทัศน์ไปเป็นภาษาอื่น ส่วนหนังที่มีคำบรรยายใต้ภาพเราเรียกว่า "a subtitled film" ซึ่งคำบรรยายที่อยู่ใต้ภาพ เราเรียกว่า "subtitles" (ต้องมี s ต่อท้ายเสมอนะครับ) เช่น a French film with English subtitles หนังฝรั่งเศสที่มีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาอังกฤษ

หนังบางเรื่องจะมีคำบรรยายใต้ภาพเป็นภาษาเดียวกับที่นักแสดงพูด เรามีศัพท์เรียกเฉพาะว่า "closed-captioned films/คำหวงห้าม/television programs" หรือ อาจเขียนย่อๆ ว่า "CC" เช่น You should watch a closed-captioned film to improve your English. คุณควรจะดูหนังฝรั่งที่มีคำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ



อัดหรือบันทึก

คนไทยมักพูดทับศัพท์ว่า เร็คคอร์ด (record) คำๆ นี้สามารถเป็นได้ทั้งคำนามและคำกิริยา เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่ง stress กล่าวคือ ถ้าจะใช้เป็นคำนามที่แปลว่า แผ่นเสียงหรือสถิติ ให้ขึ้นเสียงสูงที่พยางค์แรก คือ "เร็ค-คอร์ด" เช่น He wants to buy a record. เขาต้องการซื้อแผ่นเสียง, I broke my own record. ฉันทำลายสถิติของฉันเอง แต่ถ้าคุณจะหมายถึงคำกิริยาที่แปลว่า อัดหรือบันทึก ต้อง stress พยางค์หลัง ซึ่งจะอ่านว่า "รี-คอร์ด" เช่น I'll record the film and we can all watch it later. ฉันจะอัดหนัง เราจะได้เก็บไว้ดูทีหลังได้ ส่วนเครื่องบันทึก เราเรียกว่า "recorder" อ่านว่า รี-คอร์-เดอร์


ต่างคนต่างจ่าย

เรามักใช้ American share รับรองว่าฝรั่ง(ต่อให้เป็นชาวอเมริกันด้วย) ได้ยินแล้ว งงแน่นอน ถ้าคุณจะหมายถึงต่างคนต่างจ่ายให้ใช้ว่า "Let's go Dutch." หรือ "Go Dutch (with somebody)." อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นธรรมเนียมของชาวดัตช์หรือเปล่า? ที่ต่างคนต่างจ่ายเลยมีสำนวนอย่างนี้ หรือคุณอาจจะบอกตรงๆ เลยว่า "You pay for yourself." คือเป็นอันรู้กันว่าต่างคนต่างจ่าย แต่ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้ามือ(ไม่ใช่เล่นไพ่นะ)เลี้ยงมื้อนี้เอง คุณควรพูดว่า "It's my treat this time." หรือ "My treat." หรือ "It's on me." หรือ "All is on me." หรือ "I'll pay for you this time." ทั้งหมดแปลว่า มื้อนี้ฉันจ่ายเอง ส่วนถ้าจะบอกเพื่อนว่า คราวหน้าแกค่อยเลี้ยงฉันคืน ให้บอกว่า "It's your treat next time."

ขอฉันแจม (jam) ด้วยคน

ในกรณีนี้คำว่า "แจม" น่าจะหมายถึง "ร่วมด้วย" เช่น We are going to eat outside. Do you want to jam? เรากำลังจะออกไปกินข้าวข้างนอก เธอจะไปด้วยมั้ย? ในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า jam ในกรณีแบบนี้ ซึ่งควรจะใช้ว่า "Do you want to join us?", "Do you want to come with us?" หรือ "Do you want to come along?" จะดีกว่า

เขามีแบ็ค (back) ดี

"He has a good back." ฝรั่งคงงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับข้างหลังของเค้า เพราะ back แปลว่า หลัง (อวัยวะ) แต่คุณกำลังจะพูดถึงมีคนคอยสนับสนุน ซึ่งต้องใช้ "a backup" ซึ่งหมายถึง คนหรือสิ่งของที่ช่วยสนับสนุน ช่วยเหลือ เกื้อกูล เป็นกำลังใจให้


ที่มา http://guru.sanook.com/9059/
http://www.dailyenglish.in.th/misused-words/
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-11-29 03:03 , Processed in 0.036323 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน