KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 10474|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

แชร์ประสบการณ์เรียนต่างประเทศ

[คัดลอกลิงก์]

74

กระทู้

16

ติดตาม

2737

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

2014-08-06 20_03_32-London _ Flickr - Photo Sharing!.jpg

หลายๆคนที่กำลังจะมาเรียนต่างประเทศ อาจจะมองไม่ออกว่าเมือมาอยู่ใหม่ๆ จะเป็นยังไง ปรับตัวยากไหม เหงาไหม ผมเป็นคนนึงที่ถูกที่บ้านส่งมาเรียนเมืองนอกตั้งแต่ตอนมัธยมต้น คือมาตั้งแต่เด็กมากๆเลยครับ พูดไม่ได้ ฟังไม่ออก ลำบากมากๆ แต่สมัยก่อนนักเรียนนอกก็เป็นแบบนี้เกือบทุกคน เรื่องภาษามาฝึกเอาทีหลัง

ตอนมาเรียนต่างประเทศครั้งแรกผมถูกส่งไปเรียนที่อังกฤษ ตอนนั้นน่าจะอายุราวๆ 14 ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับติดลบครับ สอบที่ไรได้ซ่อมตลอด มาถึงก็ฟังไม่ออก พูดไม่ได้ ถูกส่งไปเรียนภาษาอยู่ราวๆ 6 เดือน แต่ต้องบอกตามตรงๆนะครับ 6 เดือนไม่ได้อะไรมาก ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของเรา ระยะเวลาแค่ 6 เดือนไม่สามารถทำให้เราเรียนรู้อะไรได้มากน่ะครับ อาจจะฟังพอได้ พูดพอได้นิดหน่อย พอพูดไม่ค่อยได้ก็เลยอาศัยเกาะเพื่อนคนไทย เพื่อนต่างชาติก็มีครับ แต่คุยกับคนไทยดีกว่า อาจจะไม่ดีเพราะไม่ได้ฝึกภาษา แต่ถ้าตอนนั้นไม่มีเพื่อนคนไทย คงหนีกลับไทยแล้วครับ ดังนั้นการมีเพื่อนคนไทยไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอกนะครับในการมาเรียนเมืองนอก มาอยู่ในที่ที่ไม่ใช่บ้านเราเมืองเราก็คิดถึงบ้านเป็นธรรมดา พอหลังจาก 6 เดือน ก็เข้าไปเรียนหลักสูตร High School ของอังกฤษเลย เรียกว่า GCSE

ตอนเข้าไปเรียน GCSE ช่วงแรก ต้องบอกเลยครับว่าไม่รู้เรื่องเลย ฟังไม่ออก เรียนกับนักเรียนคนอังกฤษนี่แหละครับ อาศัยมาอ่านเอาเอง เรื่องผลสอบหายห่วงครับ พวกวิชาที่ต้องใช้ภาษามากๆเช่น Business Studies ได้ D เลย เพราะเราเขียนสื่อสารไม่ได้ดี พูดก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง และหลังจากเข้าเรียน High School ก็ไม่ได้เรียนภาษาอีกเลย พวกแกรมม่าไม่ต้องห่วงครับ ห่วยมาก ถึงมากที่สุด แต่ก็สามารถจบมาได้เพราะอาศัยการอ่านเอาเองอย่างหนัก เปิดดิกเกือบทุกคำ แต่ผ่านมาได้แบบไม่ได้ดีเท่าที่ควร

ผมถึงพยายามบอกนักเรียนที่ตั้งใจจะมาเรียนภาษาว่า ถ้าเรียน 3 เดือนคือมาเที่ยวเฉยๆ 6 เดือนยังไม่ได้อะไรมาก ถ้าจะเรียนให้ได้ดีต้องเรียนไป 1 ปีเลย

ผมเรียนที่อังกฤษได้ 3 ปี จบระดับเทียบเท่า High School ของอเมริกา เลยย้ายไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่อเมริกาแทน เพราะอังกฤษมันดูเหงาๆ ฝนตกบ่อย เมืองเก่าๆ พอดูทีวีเห็นคนอเมริกันแล้วอิจฉา เมืองทันสมัย ผู้คนสดใส เลยตัดสินใจขอที่บ้านย้ายเลยครับ

2014-08-06 20_19_19-Chicago _ Flickr - Photo Sharing!.jpg

พอได้ย้ายมาถึงอเมริกาวันแรกไม่ผิดหวัง เมืองใหญ่จริงๆ ใหญ่จนแบบว่าไม่มีรถไปไหนไม่ได้ พอดีได้มาอยู่รัฐที่รถประจำทางไม่สะดวกน่ะครับ ผมมาด้วย I-20 ของสถาบันสอนภาษาในอเมริกา คุณอาเพื่อนคุณพ่อที่ช่วยทำเรื่องให้บอกว่าสมัครโรงเรียนภาษามาก่อนง่ายที่สุด สมัครโดยตรงกับมหาวิทยาลัยนานอาจจะกินเวลา 6 เดือนขึ้นไป แต่ก็จริงอย่างที่ท่านบอกครับ มหาวิทยาลัยใช้เวลาทำเรื่องนานมากๆ ถ้ารอก็คงไม่ได้มาซักที

ในตอนแรกผมก็แค่คิดว่าสมัครเรียนภาษาเพื่อจะมาอเมริกาก่อน คงไม่ต้องจำเป็นต้องเรียนมากเพราะเราอยู่อังกฤษมาตั้ง 3 ปี แต่พอมาทำแบบทดสอบวัดเลเวลวันแรกที่โรงเรียน ปรากฎว่าระดับความรู้ด้านแกรมม่าผมพอๆกับคนที่เพิ่งมาจากไทยเลย อาจจะพูดได้มากกว่า ฟังได้เยอะกว่าแต่พื้นฐานด้านการเขียนห่วยมากครับ ถ้าถามว่าผมจบ High School ที่อังกฤษมาได้ยังไง คือตอนสอบส่วนใหญ่เป็น Multiple Choice ครับ ไม่ค่อยมีข้อเขียน อ่านพอรู้เรื่อง เลือกเอา A B C D ไม่ยากครับ

ผมได้เริ่มเรียนตั้งแต่เลเวลแรกๆเลย โดนมาเรียนภาษาใหม่อีก 6 เดือน แต่ต้องบอกเลยครับว่าไม่ได้เสียเวลาเปล่า ความรู้ด้านการเขียน ดีขึ้นเยอะมาก พอถึงวันที่จะต้องไปสอบ TOEFL พอดีได้ไปเจอคนเวียดนาม คนจีนที่มาอเมริกาตั้งแต่เด็กๆ พูดเหมือนฝรั่งเลย ก็กำลังจะไปสอบด้วยกัน เลยถามว่าพวกยูนี่ยังต้องสอบอีกเหรอ พูดเป็นไฟ คุยกันเองยังคุยภาษาอังกฤษ และได้คำตอบมาว่ามหาวิทยาลัยที่อเมริกาต้องการผลสอบ TOEFL จากนักเรียนทุกคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษที่บ้าน และไม่ได้เกิดที่อเมริกาถึงจะอยู่มาตั้งแต่เด็กๆ  บางคนบอกว่ามาสอบรอบ 2 แล้ว สอบรอบแรกคะแนนไม่ถึง นี่คือคนที่มาอยู่อเมริกาตั้งแต่ 8-9 ขวบนะครับ อยู่มา 10 กว่าปี แต่สอบ TOEFL คะแนนไม่ถึง คือการเรียนใน High School เค้าก็สอนพื้นๆน่ะครับ ถ้าไม่ได้ตั้งใจพวกการเขียนหรือแกรมม่าก็ไม่ได้แน่น มาสอบ TOEFL คะแนนก็ได้ต่ำเป็นธรรมดา

ผมสอบรอบแรกก็คะแนนได้ตามเป้าที่มหาวิทยาลัยต้องการ แต่ต้องบอกว่าเพราะได้เรียนจากสถาบันสอนภาษานี่แหละครับถึงสอบได้ ถ้ามาจากอังกฤษแล้วมาสอบเลยรับรองคะแนนไม่ถึงแน่นอน ดังนั้นการเรียนมัธยมที่อังกฤษไม่ได้หมายความว่าจะต้องสอบ TOEFL ได้คะแนนดีพอที่มหาวิทยาลัยจะรับเข้าเรียนครับ เพราะโรงเรียนมัธยมไม่ได้เน้นสอนแกรมม่า หรือการเขียน essay แบบสถาบันสอนภาษา

เมื่อได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรี ก็ได้เริ่มรู้สึกตัวอีกทีว่า ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของเราจริงๆ การที่เราจะ อ่าน พูด เขียนให้เทียบเท่าฝรั่ง ต้องใช้ความพยายาม และเวลานานมากๆ แต่ผมใช้วิธีนี้ครับ ดีที่สุดและได้ผลไวมาก http://www.khonthaiamerica.com/f ... =162&extra=page%3D1

สรุปผมใช้เวลาเรียนต่างประเทศทั้งหมด 8 ปีกว่าๆ ถ้าถามว่าความรู้ด้านภาษาอังกฤษตอนที่จบมาใหม่ๆ ประมาณกี่ % ตอบได้ว่าประมาณ 75-80% เท่านั้นครับ ดังนั้นคนที่กำลังคิดว่าจะมาเรียนภาษาระยะสั้นๆ ผลที่ได้อาจจะไม่เยอะอย่างที่คิดนะครับ






ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-11-29 03:36 , Processed in 0.034346 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน