- ลงทะเบียน
- 2012-10-10
- ล่าสุด
- 2024-11-28
- สิทธิ์อ่าน
- 200
- เครดิต
- 2737
- สำคัญ
- 0
- โพสต์
- 229
|
นักเรียนที่กำลังจะเดินทางมาฝึกภาษาที่อเมริกา อาจจะไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว การฝึกภาษาต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะได้ผลดี ผมจะแยกประเภทของจุดประสงค์ของการเรียนภาษาและระยะเวลารวมถึงคอร์สที่เหมาะสมไว้ให้คนที่สนใจมาดูไว้เป็นแนวทางนะครับ
1. ฝึกภาษาเพื่อใช้ในการทำงานที่เมืองไทย การมาเรียนภาษาเพื่อจะกลับไปใช้งานที่ไทย ควรเน้นไปในด้านการเขียนมากที่สุดครับ ในการทำงานส่วนใหญ่ การติดต่อสื่อสารที่เป็นทางการจะอยู่ในรูปแบบลายลักษณ์อักษร การพูดปากเปล่าจะไม่ถือเป็นการสื่อสารอย่างเป็นทางการนะครับ ดังนั้นคนที่ต้องการมาเรียนเพื่อใช้ทำงาน ควรฝึกการเขียน การใช้ประโยคต่างๆให้ดี ส่วนการพูด อาจจะเป็นเรื่องรองลงมาสำหรับคนที่ต้องกลับไปทำงานที่ไทย ยกเว้นจะไปสมัครทำงานบริษัทที่พูดภาษาอังกฤษกันในหน่วยงานตลอดเวลา
หลักสูตรที่แนะนำคือ General/Intensive English + Business English หรือ Certificate
General/Intensive English ระยะเวลา 4 เดือน
Buiness English ระยะเวลา 4 เดือน
รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 8 เดือน
General/Intensive English จะช่วยปรับพื้นฐานในด้านแกรมม่า และจะสอนการเขียนบทความ (Essay) รูปแบบต่างๆเช่น Agumentative essay, Narrative Essays, Descriptive Essays etc. ซึ่งจะมีหลักการในการเขียนต่่างกันออกไป ใช้ในการสื่อสารที่ต่างกัน ระยะเวลา 4 เดือนจะช่วยปรับพื้นฐานได้ดีในระดับนึงเพื่อจะจะไปเรียน Business English หรือ Cetificate ต่อไป
Business English และ Certificate จะสอนเนื้อหาในเชิงธุรกิจ สอนโดยอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ครูสอนภาษา สิ่งที่ได้คือ การใช้ประโยคในเชิงธุรกิจ การใช้ภาษาในการติดต่อทำงาน การเขียน proposal ต่างๆ เรียนรู้ทฤษฎีด้านธุรกิจและการตลาด เป็นการฟื้นฟูความรู้ด้านธุรกิจ เพื่อใช้ในการทำงานต่อไปในอนาคต การเรียน Business English เน้นเพื่อใช้ไปทำงาน ดังนั้นจะไม่มีการสอนแกรมม่าเหมือน General/Intensive English ดังนั้นจึงเหมาะสมกับคนที่ต้องการจะกลับไปทำงานที่ไทย
2. ฝึกภาษาเพื่อใช้เรียนต่อในระดับปริญญา การเรียนต่อในระดับปริญญา นักเรียนจะต้องมีทักษะการพูด ฟัง และเขียนที่ดีเยี่ยม มหาวิทยาลัยต่างๆในอเมริกาถึงต้องการผลสอบ TOEFL เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษดีพอที่จะสามารถเรียนใน American University System แต่ผลสอบ TOEFL ที่คะแนนดีๆ ไม่ได้หมายความว่านักเรียนพร้อมที่จะเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วจริงๆ เพระส่วนประกอบที่สำคัญในการเรียนคือ การฟังและการพูด
ในการเรียนในมหาวิทยาลัยจะมีวิชาบังคับ 1 วิชาคือ Public Speaking ฝรั่งและคนต่างชาติ ต้องเรียน และต้องผ่าน วิชานี้จะสอนหลักการพูดต่างๆ และจะมีหัวข้อให้เราออกมาพูด ตอนผมเรียนบังคับขั้นต่ำ 10 นาที ตอนสอบ final 20 นาที ต้องเรียงลำดับการพูดให้ถูกต้อง บทเริ่ม เนื้อหา สรุป พูดต้องชัดเจน เสียงดัง ถ้าคุณไม่ฝึกภาษาในระดับที่สามารถพูดได้ดีในจุดๆนึง ไปเจอวิชานี้ ก็ดรอปหนีแล้วครับ เจอฝรั่งมันนั่งอมยิ้มถ้าเราพูดผิดๆถูกๆ ก็หมดความมั่นใจแล้วครับ ผมถึงแปลกใจว่าหลายๆคนกล้าเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยได้ยังไงในขณะที่พื้นฐานด้านภาษาอ่อนมากๆ
ในวิชาหลัก จะมี Presentation และ Project ตลอดเวลา โดยเฉพาะปริญญาโท ตอนจะจบต้องทำ Thesis ที่มหาวิทยาลัยผมบังคับที่ 80 หน้าขึ้นไป แต่ฝรั่งมันทำมา 140-150+ หน้า คุณจะเขียนได้ไหมครับ Thiesis 100 หน้า+ ในระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่ไม่แน่นพอ
ดังนั้นหลักสูตรที่แนะนำสำหรับคนเรียนต่อระดับปริญญาคือ General/Intensive English + TOEFL
General/Intensive English ระยะเวลา 10 เดือน
TOEFL ระยะเวลา 2 เดือน
รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 12 เดือน
General/Intensive English จะช่วยปรับพื้นฐานด้านการพูด ฟัง และเขียนได้เป็นอย่างดี ผมแนะนำให้พักกับ Host Family ไปด้วยนะครับ ช่วงระหว่างฝึกภาษา ตอนกลับมาที่บ้านจะได้ฝึกฝนการพูดไปในตัว การเรียน General/Intensive English ระยะเวลา 10 เดือนเต็มจะทำให้นักเรียนมีความพร้อมค่อนข้างดีในการที่จะเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาต่อไป
ส่วน TOEFL จะช่วยในการเตรียมตัวสอบ TOEFL เป็นอย่างดี และเป็นเหมือนการ review สิ่งที่เราเรียนมาตลอดระยะเวลา 10 เดือนจาก General/Intensive English การเรียน TOEFL 2 เดือน หลังจากที่เราได้เรียน General/Intensive English มาเป็นเวลา 10 เดือนจะสามารถรับประกันได้ค่อนข้างแน่นอนว่า ผลสอบ TOEFL จะอยู่ในระดับ 580 ขึ้นไป นักเรียนส่วนใหญ่น่าจะทำได้ที่ 600 ขึ้นไป คะแนนสอบขนาดนี้นำไปสมัครกับมหาวิทยาลัยได้ทั่วอเมริกาครับ ไม่จำเป็นต้องเรียน path way
3. เรียนภาษาช่วงปิดเทอมใหญ่ นักเรียนหลายๆคนอยากใช้เวลาช่วงปิดเทอมใหญ่ให้เป็นประโยชน์ นอกจากมาเที่ยวแล้ว ยังได้ฝึกภาษาไปในตัว แต่การเรียนภาษาระยะเวลา 2-3 เดือนมักจะไม่ค่อยได้ผลอะไรครับ และยิ่งกลับไทยหลังจากนี้ ก็อาจจะลืมหมดเพระไม่ค่อยได้ใช้ดังนั้นผมจะแนะนำว่า ให้มาเรียนเพื่อดูว่าสถาบันที่มาเรียนนี้เหมาะที่จะกลับมาเรียนระยะยาวหลังจากเรียนจบหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่สถาบันที่เราแนะนำให้จะได้มาตรฐานทุกที่ นักเรียนพอใจทุกคน แต่ก็แล้วแต่อีกแหละครับ จะต้องมาทดลองด้วยตนเอง
หลักสูตรที่แนะนำคือ General/Intensive English ระยะเวลา 8-12 สัปดาห์
นักเรียนที่มาระยะสั้น ผมอยากให้มาลองดูว่าชอบอเมริกาไหมนะครับ ก่อนจะตัดสินใจมาเรียนยาวๆ เรียนภาษาส่วนใหญ่เรียนแค่ครึ่งวัน หลังจากนั้นลองไปเที่ยวดูตามมหาวิทยาลัยต่างๆดูครับ ลองไปขอข้อมูล เดินดูห้องสมุดและ campus ว่าเราชอบไหม ถ้าโอเค ชอบมหาวิทยาลัยนี้ จะกลับมาเรียนต่อที่นี่ ก็ขอระเบียบการกลับไปเลย เป็นการวางแผนการศึกษาในอนาคตที่ดีครับ และเมื่อถึงเวลาจะกลับมาเตรียมพร้อมเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกา ค่อยมาเรียนภาษาจริงจังอีกครั้งครับ ทีนี้เรามีเป้าหมายแล้วเราจะเข้าเรียนต่อระดับปริญญาที่ไหน ก็มุ่งไปที่มหาวิทยาลัยนั้นเลยครับ
นักเรียนที่สนใจจะมาเรียนภาษา ติดต่อขอรับระเบียบการสมัคร รวมถึงค่าเทอมและโปรโมชั่นต่างๆได้ที่ enroll@khonthaiamerica.com
|
|