KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 5050|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

5 ปราสาทน่าไปเยือนในอเมริกา

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2015-7-13 16:30


    นอกจากอเมริกาจะมีปราสาทดิสนีย์แล้ว ยังมีปราสาทจริงๆ ให้เราได้ไปเยือนอีกด้วยนะคะ สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ ลองมาชมดูว่าปราสาทเหล่านี้อยู่รัฐไหนกันบ้าง ได้บรรดากาศการลองเป้นเจ้าหญิงมากๆ 555 อย่าลืมวางแพลนไปเที่ยวกันน๊าาา (คัดลอกมาจากเว็บเด็กดีนะคะ)



1. The Biltmore รัฐนอร์ธแคโรไลนา

Bilt01.jpg





     ปัจจุบัน The Biltmore เป็นบ้านพักอาศัยที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาโดยเป็นปราสาทสไตล์ชาโต สร้างโดยจอร์จ แวนเดอร์บิลท์ที่ 2 ช่วงปี1889 - 1895 มีทั้งหมด 250 ห้องพัก รวมไปถึงห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีหนังสือกว่าหมื่นเล่มห้องอาหารใหญ่ขนาดจัดงานแต่งอลังการได้ สระว่ายน้ำในร่ม และลานโบว์ลิงส่วนตัวแต่ละห้องพักมีดีไซน์ที่ไม่ซ้ำกัน

[size=14.6666669845581px]แต่ละห้องพักมีสไตล์เป็นของตัวเอง



ราคาต่อคืนมีตั้งแต่ $199 - 499 ขึ้นกับช่วงเวลาที่เข้าพักและประเภทห้องนอกจากนี้ก็มีกระท่อมส่วนตัวในสวนให้เลือกพักได้ด้วยเช่นกันหรือจะแค่แวะไปเยี่ยมชม ถ่ายภาพ ซื้อของที่ระลึก หรือทานอาหารอย่างเดียวก็ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ


2. Boldt Castle รัฐนิวยอร์ก





จอร์จ โบลท์ ผู้จัดการของโรงแรมชื่อดังในยุคนั้นอย่างWaldorf-Astoria และ Bellevue-Stratford มักพาครอบครัวมาพักผ่อนที่เกาะฮาร์ทอยู่เป็นประจำจนวันหนึ่งก็คิดจะสร้างบ้านส่วนตัวบนเกาะนี้เพื่อเป็นของขวัญแก่ภรรยาสุดที่รักของเขาจอร์จจ้างแรงงานกว่า 300คนมาสร้างปราสาท 6 ชั้น 120 ห้อง พร้อมอาคารข้างเคียงอย่างอาคารปั่นไฟ สวนแบบอิตาเลียน อุโมงค์ใต้ดินสะพานแบบเปิดให้เรือผ่านได้ รวมไปถึงอาคารเด็กเล่นสำหรับลูกๆ


ภาพขวาคือ AlsterTower หอคอยสำหรับให้เด็กๆ มาเล่น





อาคารปั่นไฟ



     แต่ในปี 1904 ภรรยาของจอร์จก็เสียชีวิตลงจอร์จจึงสั่งให้คนงานทั้งหมดหยุดงานและทิ้งการก่อสร้างในทันทีจอร์จเองก็ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย เพราะเขาทนเห็นบ้านในฝันที่ไม่มีภรรยาเขาอยู่ด้วยแล้วไม่ได้

     หลังจากนั้นทางการของ ThousandIslands ก็ซื้อสิ่งก่อสร้างทั้งหมดนี้ต่อจากตระกูลโบลท์ในราคาเพียง 1 ดอลลาร์ ภายใต้ข้อตกลงว่าจะสร้างต่อยังไงก็ได้แต่ห้ามทุบสิ่งที่สร้างแล้วทิ้งซึ่งทางการต้องซ่อมแซมและต่อเติมบูรณะทั้งหมดไป 15 ล้านเหรียญเลยทีเดียวปัจจุบันนี้ปราสาทนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้คนทั่วไปเข้าชมได้โดยต้องนั่งเรือเฟอร์รี่เข้ามาที่เกาะฮาร์ท





3. Winterthur รัฐเดลาแวร์







     เมื่อ 60 กว่าปีก่อน เฮนรี่ ฟรานซิส ดูปองต์เปิดบ้านสมัยเด็กของเขาเองให้ทุกเข้าเข้าชมได้ จนตอนนี้คฤหาสน์วินเทอร์ทัวร์กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา วินเทอร์ทัวร์มีห้องพักทั้งหมด175 ห้อง ล้อมรอบตัวบ้านด้วยทุ่งหญ้าและป่าไม้นอกจากนี้ยังมีสวนสวยติดอันดับที่มีพันธุ์ไม้หายากเหมาะแก่การศึกษาด้วย





     แถมตอนนี้ยังมีนิทรรศการ Downton Abbey มาเอาใจแฟนๆละครชุดนี้โดยเฉพาะ เพราะสถาปัตยกรรมและการตกแต่งของคฤหาสน์นี้คล้ายคลึงกับในเรื่องมากๆแถมยังมีคอสตูมจาก Downton Abbey มาให้ลองใส่ระหว่างเดินชมคฤหาสน์ให้บริการด้วยราคาค่าเข้าชมอยู่ที่คนละ $20 ค่ะ



4. The Breakers รัฐโรดไอแลนด์






     คอร์นีเลียสแวนเดอร์บิลท์ที่สอง พี่ชายของจอร์จผู้สร้าง The Biltmore เป็นผู้สร้างคฤหาสน์5 ชั้น 70 ห้องนอนแห่งนี้คฤหาสน์นี้โดดเด่นตรงที่ตั้งเพราะตั้งอยู่ริมหน้าผาติดมหาสมุทรแอตแลนติกเลย






     ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ดูแลโดยสมาคมอนุรักษ์ของเมืองพอร์ตแลนด์ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ทั่วยกเว้นเพียงบริเวณชั้น 3 ที่ยังเป็นที่พักของทายาทตระกูลแวนเดอร์บิลท์อยู่(อยากแวะไปทำความรู้จักด้วยจัง)



5. Iolani Palace รัฐฮาวาย






     อันดับนี้เคยเป็นพระราชวังจริงๆของกษัตริย์ฮาวายในสมัยก่อนค่ะฉะนั้นมาเที่ยวที่นี่จะได้เห็นอะไรมากกว่าบ้านหลังอื่นๆ แน่ไม่ว่าจะป้อมทหารหรือพลับพลาพระราชพิธีที่เคยใช้ประกอบพิธีในสมัยก่อนถ้าอยากรู้สถาปัตยกรรมแบบฮาวายเป็นยังไงต้องมาดูที่นี่เลย






     ใครที่ชื่นชอบการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์น่าจะชอบคฤหาสน์พวกนี้ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ลองไปเที่ยวปราสาทสวยๆ ในอเมริกาดูนะคะจะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของประเทศนี้ค่ะ



รูปและที่มา http://www.dek-d.com/studyabroad/35705/







ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-12-1 18:47 , Processed in 0.038360 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน