KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 5824|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ชาว Amish American ผู้หันหลังให้เทคโนโลยี่

[คัดลอกลิงก์]

74

กระทู้

16

ติดตาม

2737

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

big-amish-family_thumb-679x380.jpg

วิถีการดำรงชีวิตของชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเองว่า “อามิช” (Amish) ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 2 แสนคน เป็นวิถีชีวิตที่น่าศึกษาและน่าสนใจมาก เพราะกลุ่มชนนี้ไม่ยอมรับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ยังคงดำเนินชีวิตแบบในยุโรปสมัยก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม คือเดินทางโดยรถม้า ทำไร่ไถนาโดยใช้แรงงานสัตว์ทั้งสิ้น พวกเขาให้เหตุผลโดยหลักการว่าหากใช้เทคโนโลยีมากจะทำให้ “คุณภาพชีวิต” ของพวกเขาตกต่ำลง      

จะเห็นได้ว่าคำว่า “คุณภาพชีวิต” ที่เราคิดว่ารู้จักกันดีนั้น มีคำนิยามที่ไม่เป็นสากล เพราะขึ้นอยู่กับการตีความของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลด้วย ชาวอามิชเห็นว่าคุณภาพชีวิตของพวกเขาคือการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สงบเสงี่ยม ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ทำการเกษตรแบบพอมีพอกิน และดำเนินชีวิตตามประสงค์ของพระเจ้าเพื่อชีวิตนิรันดร์ในปรโลก พวกเขาได้ดำรงชีวิตอย่างนี้มาเป็นเวลาประมาณ 500 ปีแล้ว กฎสังคมโดยทั่วไปของชาวอามิชมีดังนี้

-         ไม่ใช้กระแสไฟฟ้า (ใช้ตะเกียง)
-         ไม่ใช้รถยนต์ รถแทรคเตอร์ เครื่องยนต์กลไกทั้งหลาย (ใช้รถม้าและแรงงานสัตว์)
-         แต่งกายมิดชิด สีเข้ม เรียบง่าย เป็นเครื่องแบบเหมือนกันทุกคน
-         ไม่ใช้โทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์ เครื่องอำนวยความสะดวกที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหลาย

เหตุผลหลักที่ห้ามใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะเขาเห็นว่าการใช้เทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพ  หากใช้มากเท่าใดก็จะทำให้ทำให้เกิดความเสื่อมทั้งต่อตนเองและต่อสังคมดังนี้
-         ทำให้เกิดความโอ้อวดและความหยิ่งผยอง
-         ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำต่ำสูงในสังคม
-         ทำให้สนใจครอบครัวและสังคมน้อยลง (สนใจเทคโนโลยีแทน)
-         ทำให้จิตใจหยาบกระด้างและโน้มเอียงไปทางรุนแรง (ชาวอามิชเป็นพวกอหิงสาอย่างยิ่ง)
-         ทำให้ห่างเหินจากพระเจ้ามากขึ้น (ชาวอามิชเป็นสาขาหนึ่งของศาสนาคริสต์)

ทั้งนี้เพราะชาวอามิชถือว่าคุณภาพชีวิตของเขาคือ การอยู่ใกล้ชิดกับสมาชิกครอบครัวและสังคมเพื่อนบ้าน หากใช้เทคโนโลยีมากเกินจำเป็นก็จะทำให้ห่างเหินกันมากเกินจำเป็นด้วย เช่น อาจดูโทรทัศน์อยู่คนเดียวโดยไม่ติดต่อกับใคร หรือคุยโทรศัพท์นินทาว่าร้ายคนอื่นได้ง่ายเป็นเวลานาน นำความเสื่อมถอยมาสู่สังคมได้ นอกจากนี้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่อย่างสมถะ พอมีพอกิน ประหยัด สุภาพ เรียบง่าย รักสงบ ตามแนวทางของพระเยซูไครสต์เพื่อเป็นไปตามประสงค์ของพระเจ้าและชีวิตนิรันดร์ในที่สุด

แต่จริงๆ แล้วชาวอามิชไม่ได้ปฎิเสธเทคโนโลยีโดยสิ้นเชิงพวกเขาจะประชุมเพื่อตกลงร่วมกันว่าเทคโนโลยีใดจำเป็นก็จะรับไว้และรับในปริมาณที่เหมาะสมเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เช่น พวกเขายอมรับให้เก็บนมวัวในถังแสตนเลสที่มีเครื่องกวนไฟฟ้าได้ เพราะมีความจำเป็นที่ต้องทำตามกฎกระทรวงเกษตรเพื่อที่จะได้รับการรับรองว่าสะอาดพอที่จะขายในท้องตลาดได้ การใช้โทรศัพท์ในกรณีจำเป็นเช่น เรียกหมอ ก็ทำได้ การใช้รถยนต์เพื่อไปโรงพยาบาลแบบฉุกเฉินก็กระทำได้

วิธีการและระดับของการยอมรับเทคโนโลยีของชาวอามิชนับว่าเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ก่อนอื่นสังคมของเขามีวิสัยทัศน์ร่วมกันอย่างเป็นระบบว่าคุณภาพชีวิตคืออะไร ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายและแม้กระทั่งหลังจากตายแล้ว จากนั้นเขาจะประชุมร่วมกันว่าจะยอมรับเทคโนโลยีใดหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเทคโนโลยีนั้นจะมาช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น หรือมาบั่นทอนให้ลดลง  ในขณะที่สังคมของประเทศไทยเปิดกว้างยอมรับเทคโนโลยีทุกอย่างโดยไม่ค่อยได้วิพากษ์ไตร่ตรองและประชุมหารือกันเลย ส่วนใหญ่ก็มักอ้างกันแต่เพียงว่าหากไม่ยอมรับก็จะทำให้ตามโลกเขาไม่ทัน แต่ไม่แน่ใจนักว่าตามไปที่ไหนและมีจุดหมายอยู่ที่ใด  ส่วนชาวอามิชมีจุดหมายชีวิตที่ชัดเจนว่าต้องการไปอยู่กับพระเจ้า

ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ คุณภาพชีวิตของชาวอามิชนั้น หมายรวมถึงความสุขสามประเภท คือความสุขทางกาย ความสุขทางอารมณ์(พวกอามิชก็ร้องรำทำเพลงด้วย) และความสุขทางจิตวิญญาณ  ในความเห็นของผู้เขียนนับได้ว่าเป็นนิยามที่มีความสมดุลกว่านิยามของคนทั้งหลายในโลก ซึ่งมักเอากันแค่ความสุขทางกายหรืออย่างมากก็เพิ่มทางอารมณ์ด้วยเท่านั้น

หมายเหตุ ความเชื่อด้านศาสนาของชาวอามิชแยกตัวออกมาจากกระแสหลักของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกและโปรแตสแตนเมื่อประมาณ คศ. 1500 ทำให้ถูกพวกกระแสหลักเข่นฆ่าอย่างทารุณเป็นจำนวนมาก จนต้องอพยพหนีไปอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งก็ยังถูกตามรังแก จึงต้องอพยพไปอยู่อเมริกาในราวปี คศ. 1850 ปัจจุบันส่วนใหญ่ตั้งรกรากอยู่ในตอนกลางด้านเหนือของอเมริกา ในรัฐโอไฮโอ เพนซิลเวเนีย และอินเดียนา เป็นต้น แม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมมากในแต่ละปี แต่ชาวอามิชก็ยังคงวิถีชีวิตแบบพอเพียงได้อย่างคงเส้นคงวาตลอดมา

ที่มา: ok nation

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-11-29 10:52 , Processed in 0.037621 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน