KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 23942|ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เที่ยว Washington D.C. เมืองหลวงของอเมริกา

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8


640px-DCmontage4.jpg


Washington D.C. โดยตัวย่อ D.C. ย่อมาจาก District of Columbia เขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย) เป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ติดต่อกับรัฐเวอร์จิเนียและรัฐแมริแลนด์ โดยวอชิงตัน ดี.ซี.อยู่ในเขตฝั่งซ้ายของแม่น้ำพอตอแมก (Potomac River)
การเดินทางในวอชิงตัน ดี.ซี.มี 3 ทางหลักๆคือ

1. Metrorail
รถไฟใต้ดินที่นี่มีทั้งหมด6 สายค่ะ ราคาตกเที่ยวละประมาณ1.75 - 3.60 USD แล้วแต่ระยะทางและช่วงเวลาเดินทางว่าpeak หรือไม่ peak

2. Metrobus& DC Circulator
Metrobusก็คือรถเมล์มีหลายสาย เดินทางสะดวกดีค่ะ เผลอๆเราว่าสะดวกกว่าใต้ดินด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องเดินขึ้นลงสถานีไปไกลๆรถเมล์ที่นี่ตรงเวลานะคะแค่เราไปรอที่ป้ายให้ถูกด้าน พอถึงเวลารถเมล์ก็มาค่ะ ระหว่างเดินทางเค้าจะคอยบอกเสมอว่าถึงป้ายไหนแล้วถนนไหนแล้วค่าโดยสารขึ้นกับระยะทางแต่ก็ไม่ค่อยแตกต่างไปจากใต้ดิน..เหมาะสมเวลาใช้เดินทางไปในที่ใกล้ๆที่ไม่มีใต้ดินหรือจะอ้อมเกินไปถ้าหากต้องกลับไปขึ้นใต้ดิน

DC Circulatorเป็นบัสอีกประเภทหนึ่งที่วิ่งวนเป็นวงกลม มีทั้งหมด 5 สายหลัก ค่าเดินทาง1 USD ตลอดสายจ้า

“SMARTRIPCARD” IS A MUST

SmarTripcard ก็เหมือนบัตรOctopus เวลาไปสิงคโปร์หรือ Oyster เวลาไปลอนดอนค่ะ SmarTrip ใช้ขึ้นได้หมดทั้งใต้ดินMetrobusหรือ DC Circulator การมี SmarTripจะช่วยลดราคาใต้ดินให้เราถึงเที่ยวละ 1 USD และลดราคาMetrobusเที่ยวละ 20 cent นอกจากนั้นหากเราขึ้นใต้ดินแล้วมาต่อMetrobus หรือ Metrobus แล้วมาต่อใต้ดินภายใน2ชม จะลดราคา 50 cent

SmarTrip เป็นบัตรแข็งๆเวลาใช้ก็แปะเข้าที่จุดรับบัตรค่ะทั้งประตูตรงใต้ดินและแท่นติ๊ดบัตรใน Metrobusเราสามารถซื้อบัตรง่ายๆที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกสถานีค่าซื้อบัตรครั้งแรก 10 USD เป็นค่าเดินทาง 8USD และค่าธรรมเนียมบัตร(ที่ไม่ได้คืน) 2 USD เวลาค่าเดินทางใกล้หมดเราก็เติมเงินเข้าไปผ่านค่าเครื่องเติมค่าโดยสารอัตโนมัติค่ะ

3.Walk!!
คนที่นี่เค้าชอบเดิน(หรือบางทีก็วิ่ง) กันค่ะผังเมืองของวอชิงตัน ดี.ซี. เค้าวางมาดี เดินง่ายจาก USCapital ผ่ากลางออกเป็น 4 ทิศ NW NE SWและ SEถนนแนวนอนไล่ไปตามตัวอักษรจาก A Street ถนนแนวตั้งไล่ไปตามตัวเลขจาก 1st Street คนที่นี่เค้าจะบอกระยะทางกันเป็น blockเช่นเดินไปอีก 2 blocks แต่ขอบอกว่า blockที่วอชิงตันดี.ซี ไกลกว่าเมืองอื่นเยอะมากเลย แต่สักพักก็จะชินค่ะ

ข้อมูลการเดินทางจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jellyjourney&month=14-09-2014&group=2&gblog=22

สถานที่ท่องเที่ยวในวอชิงตัน ดีซีส่วนมากจะเป็นพิพิธภัณฑ์นะคะ น่าสนใจหลายที่มากๆเลย มาดูกันว่าแต่ละสถานที่ มีความสำคัญอย่างไรบ้าง

1. U.S. Capitol หรือ รัฐสภา

ภายในประกอบด้วยที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร(U.S. House of Representatives) และที่ประชุมวุฒิสภา(U.S.Senate) ซึ่งทั้ง 2 สภานี้ก็ประกอบเป็นสภาคองเกรส ทำหน้าที่ออกกฎหมาย


การเที่ยว TheU.S. Capitol จะมีเจ้าหน้าที่พาชมแต่ละห้องค่ะ สำหรับคนที่ไม่อยากไปต่อคิวเข้าชมแนะนำว่าควรจองวันเข้าชมและรอบไปก่อนผ่านเวบไซต์ นี้ ไม่เสียเงินนะคะ พอถึงวันนัดจะได้ไม่ต้องไปรอคิวค่ะแต่ควรไปก่อนเวลานัดซัก 45นาที เพราะจะมีการตรวจกระเป๋า ทัวร์เริ่มจากชม presentationสั้นๆเพื่อดูประวัติความเป็นมาของThe U.S. Capitol และประวัติศาสตร์การปกครองของอเมริกา หลังจากนั้นเราก็จะไปชมห้องต่างๆด้านใน



The U.S. Capitol เปิดวันจันทร์-เสาร์ตั้งแต่ 8.30 – 16.30 นั่งรถใต้ดินลงสถานี CapitolSouth สายที่ส้ม/น้ำเงิน/เงิน หรือใครอยู่ใกล้ๆจะเดินมาก็ได้นะคะ


2. Library of Congress

ห้องสมุดนี้ได้ขึ้นชื่อสวยมากๆๆๆๆห้ามพลาดเลยนะคะ เราสามารถเดินเชื่อมจาก The U.S. Capitol มาได้เลย Library of Congress แบ่งออก
เป็น 3 ตึก คือThomas Jefferson building, James Madison Memorial building และ John Adams building











เข้าชมฟรี เปิดวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่ 8.30-21.30ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ The U.S. Capitol ค่ะ


3. National Gallery of Art

แนะนำว่าให้ไปดูรอบทัวร์ของที่นี่ก่อนนะคะ  จะมีเจ้าหน้าที่มาบรรยายที่มาของภาพทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น มี 3 ส่วนนะคะ มีEast building, West building, และ Sculpture garden


ฝั่ง West เป็นศิลปะยุคเก่าฝั่ง East เป็นแนว Modern ค่ะ  ภายใน West  Building จะมี Garden Caféขายอาหารคาวหวาน บุฟเฟต์ราคาหัวละ $20.75









ฝั่ง West






ฝั่ง East







ส่วน Garden ด้านนอกค่ะ

4. Natural History Museum

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ถูกใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ค่ะเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับธรรมชาติ จัดแสดงสัตว์สตาฟนานาชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสัตว์น้ำ สัตว์เลื้อยคลาน นก โครงกระดูกของสัตว์ต่างๆ นอกจากนั้นยังมีจัดแสดง หิน และอัญมณีด้วยคอลเลคชั่นของที่นี่ใหญ่จริงๆค่ะ ถ้าเค้าบอกว่ามีนกสตาฟ ก็มีเป็นร้อยๆตัว บอกว่ามีโครงกระดูกก็มีตั้งแต่โครงกระดูกของนกงู เต่า จนไปถึง ลิง ปลาวาฬ จระเข้และไดโนเสาร์เลยของเค้าดีจริงๆ










เข้าไปโถงด้านในปุ๊ป ไฮไลท์เด่นสุดคือน้องช้างสตาฟค่ะตัวสถาปัตยกรรมด้านในก็สวยงาม ดูคลาสสิกดี แบ่งเป็นห้องย่อยๆสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็ชมคือHope Diamond ที่ชื่อว่าเป็น themost famous diamond in the world..Hope diamond เป็นเพชรฟ้าเข้มออกน้ำเงินหนัก45.52 กะรัต ความดังของเพชรนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสวยเท่านั้น แต่บางคนเชื่อว่าเพชรนี้ต้องคำสาปใครได้ครอบครองมันต้องมีอันถึงแก่ความตาย Hope Diamond มีประวัติยาวนานมากมันเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล จาก อินเดียไปฝรั่งเศส ไปอังกฤษ จนกระทั่งถูกส่งไปรษณีย์มาให้Smithsonian Institution ที่สหรัฐอเมริกา






อาหารที่นี่ค่ะ น่ากินจัง ว่าแต่เนื้อนี่ เอามาจากไหนนะ ใช่ตัวที่เหลือแต่โครงกระดูกหรือเปล่า - -'



เปิดทุกวัน ยกเว้น 25ธันวาคม ตั้งแต่ 10.00-17.30 ไม่เสียค่าเข้าชมค่ะตั้งอยู่ที่ National mall 9th-12thstreet Constitution Avenue เดินทางโดยรถไฟใต้ดินสถานี Federal Triangle บนสายสีน้ำเงิน/ส้ม/เงิน

5. National Museum of American History

พิพิธภัณฑ์นี้บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยุคอาณานิคมยุคปฏิวัติอเมริกา ยุคสงครามกลางเมือง จนมาถึงยุคปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงของหายากของเก่าในประวัติศาสตร์ เช่น ดาบของ George Washington ชุดของ Abraham Lincoln, Star-Spangled Banner Flag ธงชาติอเมริกาอายุกว่า200 ปี ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ Francis Scott Key แต่งเพลงประจำชาติของประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้น













เปิดทุกวัน ยกเว้น 25 ธันวาคม ตั้งแต่10.00-17.30 ไม่เสียค่าเข้าชม ตั้งอยู่ที่ National mall 12th-14th street Constitution Avenue เดินทางโดยรถไฟใต้ดินสถานี Federal Triangle บนสายสีน้ำเงิน/ส้ม/เงิน


6. US HolocaustMemorial Museum
พูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์เกี่ยวกับที่Hitler ฆ่ายิวค่ะ  จัดได้น่าสนใจมาก ไม่น่าเบื่อคนที่ไม่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์ยังชอบเลยค่ะ






7. Lincoln memorial

อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีอับราฮัมลินคอล์นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของประเทศ อนุสรณ์นี้สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมกรีกด้านในมีรูปปั้นลินคอล์นนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำแพง 2 ข้าง แกะสลักคำปราศัย2 ครั้งที่ดังๆคือ The Gettysburg Address และ Second Inaugural Address ลินคอล์นถือว่าเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเค้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงที่มีสงครามการเมือง การมุ่งเลิกทาสของเขาทำให้เกิดความขัดแย้งกับรัฐทางใต้หรือ สมาพันธรัฐ สงครามกลางเมืองก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงในชีวิตของทหารและพลเรือนอเมริกาเพียง 4 ปีเท่านั้นที่ลินคอล์นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ลินคอล์นก็เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนแรกที่ถูกลอบสังหาร





8. Washington monument

อนุสาวรีย์วอชิงตัน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงGeorge Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาตัวอนุสาวรีย์มีลักษณะเรียบง่ายเป็นแท่ง Obelisk แบบอียิปต์มีความสูง170 เมตร ทำจาก หินอ่อน หินแกรนิต และหินทราย สร้างเมื่อปี 1848แต่มาแล้วเสร็จในปี 1884 หลังจากมีการหยุดสร้างไป20 กว่าปีจากการขาดเงินทุนและสงครามกลางเมือง ที่บอกว่าขาดเงินทุนเนื่องจากช่วงแรกรัฐบาลมีนโยบายที่ไม่อยากให้บุคคลใด หน่วยงานใดหรือบริษัทใดทำตัวเป็นนายทุน เป็นเจ้าของอนุสาวรีย์นี้จากการบริจาคเงินจำนวนมากดังนั้นรัฐบาลจึงไม่อนุญาตให้บริจาคเกิน 1 USD!!

และนี่เองที่ทำให้ขาดเงินทุนในการสร้างจนเมื่อกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งจึงยกเลิกเพดานในการบริจาคออกไป ถ้าสังเกตอนุสาวรีย์วอชิงตันดีๆจะพบว่าหินมันมี 2 สี ก็เพราะว่าหยุดไปนานเนี่ยหละค่ะ จะไปซื้อหินลอตเดิมสีเดิมมาต่อมันก็คงจะไม่มีแล้ว ทำให้ Washington monument เป็น two-tonemonument อย่างที่เห็น รอบๆอนุสาวรีย์ประดับด้วยธงชาติอเมริกา 50ธง แทน 50 รัฐ







อีก 8 สถานที่ และเครดิต มีต่อด้านล่างค่า
รับให้คำปรึกษาและช่วยดำเนินการเรื่องการทำวีซ่านักเรียน (อเมริกา)

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8



9. Georgetown

Georgetown เป็นย่านที่เก่าแก่มากถ้าเทียบกับส่วนอื่นๆของดี.ซีGeorgetown University ก็ตั้งอยู่ในย่านนี้ด้วย
M Street เป็นถนนสายสำคัญที่ตัดผ่านย่านGeorgetown สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านเสื้อ ร้านเครื่องประดับร้านอาหารต่างๆมากมายชอปปิ้งสนุกเลยค่ะ สามารถเดินได้ตั้งแต่ M street ตัดกับ 35thstreet จนไปถึง ตัดกับ 28thstreet เลย ร้านค้าที่Georgetown ส่วนมากปิดประมาณ3 ทุ่มนะคะบางร้านก็อาจจะเปิดดึกหน่อย ลองแพลนเวลามาชอปปิ้งกันดีๆ





10. Georgetown cupcakes


ร้านคัพเค้กชื่อดัง ถ้าไม่ได้มาเดี๋ยวจะคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง5555
ร้านอยู่ที 301M Street NW(corner of 33rd & M) เปิดทุกวันวันจันทร์ถึงเสาร์ 10.00-21.00วันอาทิตย์ 10.00-20.00 ค่ะ





การเดินทางมา Georgetownจะค่อนข้างยากหน่อยเพราะรถไฟใต้ดินสถานีที่ใกล้สุดก็เดินตั้ง 20-30 นาทีง่ายสุดคือมา DC Circulator ค่ะ ให้บริการทุุก 5-10 นาที ลงบนM street เลย


11. Arlington Cemetery


สุสานแห่งชาติอาลิงตันสร้างขึ้นเมื่อปี 1864 เพื่อเป็นที่ฝังศพทหารที่เสียสละชีวิตในสงครามกลางเมือง พร้อมทั้งเป็นที่ฝังศพทหารตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่1 และ 2 สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามอื่นๆที่อเมริกาเข้าร่วมรบจนมาถึงทหารที่เสียชีวิตในปัจจุบันค่ะงงหละสิว่าถ้าเพิ่งตั้งปี 1864 แล้วจะมาฝังศพทหารจากสงครามที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นได้ไงคำตอบคือ เค้าขุดจากหลุมเก่ามาไว้ที่นี่ค่ะ(สยองนิดๆ) หลุมฝังศพของที่นี่จะเป็นแผ่นหินสีขาว จารึกชื่อ นามสกุลและเหรียญเกียรติยศ(Military Medal) ที่ได้รับระหว่างรับราชการทหาร โดยที่หลุมศพที่นี่จะไม่มีการแบ่งชนชั้นจากยศที่ได้รับนะคะไม่ว่าจะเป็นทหารชั้นผู้น้อยหรือทหารชั้นผู้ใหญ่ก็มีสิทธิเสมอกันค่ะ..ปัจจุบันมีศพฝังอยู่ที่นี่กว่า3 แสนคน และก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวันค่ะ




นอกจากทหารแล้วก็ยังมีศพของบุคคลสำคัญฝังอยู่ที่นี่ด้วยเช่น ประธานาธิบดี  WilliamHoward Taft และ John F. Kennedy ประธานาธิบดีมีสิทธิที่จะฝังศพไว้ที่นี่ได้แม้ไม่ใช่ทหารแต่ก็แล้วแต่ครอบครัวนะคะว่าจะไปฝังที่อื่นหรือมาฝังที่นี่นอกจากนั้นก็มี Tomb of the Unknown Soldiers ที่ฝังศพของทหารนิรนามในสงครามโลกครั้งที่1, 2 และสงครามเกาหลีค่ะ ตรงจุดนี้จะมีทหารยามเดินตลอดเวลา



เวลาทำการ: เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00-19.00 สำหรับช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน และ 8.00-17.00 ช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคม
ค่าเข้า: ฟรี
การเดินทาง: Metrorail(ArlingtonCemetery station) blue line


12. Eastern Market


ทุกวันเสาร์อาทิตย์ บริเวณ  7th street ตัดกับPennsylvania avenue จะมีตลาดนัดคนเดินค่ะ มีขายทั้งของสด ผักผลไม้ ชีส ราคาถูก มีเต้นท์ขายอาหาร รวมถึงงานศิลปะเก๋ๆด้วยใ ครที่ไม่ได้กินข้าวมาสามารถมาเดินเล่นและฝากท้องไว้ที่นี่ได้ค่ะย่านนี้เป็นย่านที่ครึกครึ้นมากเดินแล้วรู้สึกสนุกดี คนที่มาขายของก็เป็นคนท้องถิ่นจริงๆทำให้ได้บรรยากาศ localแท้ๆ มาง่ายๆเพียงนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Eastern Market แล้วเดินมาอีกนิดหน่อยเองค่ะ





วันเสาร์เปิดตั้งแต่ 7.00 – 18.00 วันอาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 9.00– 17.00




1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

13. Ford’s Theater

โรงละครแห่งนี้เปิดการแสดงตั้งแต่ยุค 1860sแต่ที่ทีให้โรงละครแห่งนี้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นคงเป็นเพราะ Ford’sTheaterเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดี AbrahamLincoln ในวันที่ 14 เมษายน 1865 ในวันนั้นขณะที่ลินคอล์นนั่งชมการแสงอยู่ John Wilkes Booth บุกเข้ามายิงลินคอล์นจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา..วันนี้เราไม่ได้มาชมการแสดงอะไรหรอกค่ะแต่เรามาทัวร์ History on foot: Detective James McDevitt ซึ่งเป็นทัวร์ที่จัดโดยFord’sTheatre เอง ลักษณะการทัวร์จะเป็น walking tourเช่นเคย จะมีไกด์ซึ่งสวมบทบาทของตำรวจพาเราหาเงื่อนงำไขปริศนาการฆาตกรรมนี้เราจะเดินไปเรื่อยๆแวะหยุดตามจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมเดินประมาณ 2.6กิโลเมตร ไปจบเคสที่ Lafayette Square ด้านหลังของWhite House ค่ะ







เก้าอี้ที่ Lincoln นั่งค่ะ






14. World War II Memorial

อนุสรณ์เพื่อเชิดชูเกียรติทหารและพลเรือนในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่2 ตัวอนุสรณ์เป็นลักษณะวงรี มีหอคอย 2 ด้าน ด้านนึงแทนทวีป Pacificอีกด้านแทนทวีป Atlantic รอบๆยังมี เสาทั้งหมด56 เสา แกะสลักเป็นชื่อรัฐและเขตปกครองอื่นๆ ตรงกลางเป็นน้ำพุ เรียกว่า Rainbowpool สวยมากเลยค่ะ





นอกจากนั้นยังมี Freedomwall ประดับดาวสีทองอยู่ที่ผนัง โดยดาว 1 ดวง แทนทหารอเมริกัน 100 คนที่เสียชีวิตไปในสงครามโลกครั้งที่2 อนุสรณ์นี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2004 ตั้งอยู่ระหว่าง Washington monument กับ Lincoln memorial ค่ะ





15. Vietnam Veterans Memorial

อนุสรณ์ทหารผ่านศึกเวียดนามสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารในสงครามเวียดนามทั้งที่เสียชีวิตในสงคราม (Killed in Action) และหายในสงคราม (Missing in Action) ตัวอนุสรณ์ประกอบด้วย3 ส่วน คือ three soldiers statue, the VietnamWomen’s Memorial และ the Vietnam Veterans Memorial Wall


สงครามเวียดนามเกิดขึ้นในช่วงปี 1955-1975 สหรัฐอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามนี้จากการสนับสนุนฝ่ายเวียดนามใต้เพื่อต่อสู้กับฝ่ายเวียดนามเหนือที่เป็นคอมมิวนิสต์และได้การสนับสนุนจากโซเวียตสงครามสิ้นสุดลงโดยเวียดนามเหนือเป็นฝ่ายชนะ สงครามนี้ทำให้ทหารและพลเรือนในเวียดนามเสียชีวิตกว่า8 แสนคน และทหารอเมริกันเสียชีวิตกว่า 58,000 คน


รายชื่อผู้เสียชีวิตและหายไประหว่างสงครามได้ถูกแกะสลักอยู่บนผนังหินแกรนิตหินนี้นำเข้ามาจากประเทศอินเดียเนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีในการสะท้อน ผู้ที่มายืนอยู่หน้าผนังหินนี้จะเห็นเงาของตัวเองราวกับมองกระจก




ด้านหลังของชื่อจะมีสัญลักษณ์ ถ้าตายในหน้าที่จะแกะสัญลักษณ์เป็นรูปเพชรถ้าหายไประหว่างสงครามจะเป็นรูปไม้กางเขน หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่ Missingin Action มีชีวิตรอด จะแกะสลักหินเป็นวงกลมล้อมรอบกางเขน (ซึ่งปัจจุบันยังไม่มี)แต่ถ้าพบว่า Missing in Action เปลี่ยนเป็น Killed inAction จะแกะสลักหินเพิ่มจากกางเขนให้เปลี่ยนเป็นรูปเพชร




The Three Soldiers (White American,AfricanAmerican, and Hispanic American)


Women’s Memorial (ผู้หญิงที่เงยหน้ามองฟ้าชื่อHope ที่ก้มหน้าสวดมนต์อยู่ ชื่อ Faith ผู้ที่ดูแลทหารป่วยอยู่ชื่อ Charity)


16. Korean War Veterans Memorial

อนุสรณ์เพื่อระลึกถึงทหารที่รับใช้ชาติในสงครามเกาหลีสงครามเกาหลีเกิดขึ้นระหว่างปี 1950-1953 เป็นสงครามระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาหลีได้แบ่งออกเป็น 2 ประเทศ คือ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยใช้เส้นละติจูดที่ 38 เป็นเส้นแบ่งประเทศ แต่ในปี 1950 เกาหลีเหนือซึ่งขณะนั้นได้รับการสนุนจากจีนและโซเวียตได้ทำการบุกมายังเกาหลีใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติอันมีอเมริกาเป็นหัวหอกหลักสงครามเกาหลีจึงเกิดขึ้น



รูปปั้นทหาร 14คนกำลังลาดตระเวน ประกอบด้วยทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ เวลาเราเดินชมรูปปั้นทหารเหล่านี้จะมีทหาร1 นายสบตากับเราเสมอ รูปปั้นทหาร 14 นายจะสะท้อนเข้าไปในกำแพงหินแกรนิตทำให้เห็นทหารทั้งหมด 38 นายเหมือนกับเส้นละติจูดที่ 38กำแพงหินแกรนิตใช้เทคนิคแกะสลักหินเป็นรูปภาพทหาร อาวุธ และพลเรือนที่มีส่วนร่วมในสงคราม








เพิ่มเติม


ใครอยากเดินทัวร์ แนะนำที่นี่เลยค่ะ DC by foot  http://www.freetoursbyfoot.com/washington-dc-tours   เป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ใช้การเดิน  

DC by foot มีทัวร์หลากหลายมาก เช่นCapital Hill tour, Arlington tour, National mall tour, ยังมีrunning tour ตอนกลางคืนเพื่อชมวิวความสวยงามยามค่ำคืนด้วยนะคะเรียกได้ว่าเค้ามีทัวร์ครอบคลุมทุกย่านที่น่าสนใจในดี.ซี.ค่ะไกด์ของ DC byfoot ก็ professional เค้าทำอาชีพนี้เป็นหลักเลยเรื่องราคาก็เก๋มาก DC by foot ได้ชื่อว่าเป็น originalname-your-own-price Washington,D.C. tour คือชอบทัวร์เท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้นแต่ละทัวร์ก็จะมีไกด์ต่างคนกันแล้วแต่ว่าใครถนัดเรื่องไหนพอจบทัวร์ก็ให้เงินเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆตามความพอใจของลูกค้าค่ะ
สไตล์การทัวร์ก็จะเดินไปเรื่อยๆ แวะพักตามจุดสำคัญเพื่อบรรยายค่ะข้อดีของมันคือช่วยให้เราได้รับรู้ถึงประวัติศาสตร์ของสถานที่หรือสิ่งก่อสร้างนั้นๆไม่งั้นเราก็อาจจะไม่ทราบว่าที่นั่นมีความสำคัญยังไงให้อ่านเองก็อาจจะขี้เกียจ มีคนมาบรรยายให้ฟัง สนุกและก็เพลินดีค่ะ


ถ้าใครสนใจเรียนที่สถาบันสอนภาษาที่ Washington DC สามารถติดต่อเราได้ค่ะทางเรามีส่วนลดค่าเรียนราคาพิเศษ ราคาเอเจนซี่ (ถูกกว่าสมัครเรียนเองค่า)ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะhttp://www.khonthaiamerica.com/Contacts.html

หรือที่ Facebook :
https://www.facebook.com/KhonThaiAssociationOfAmerica

ทางเรามี จนท. คนไทยช่วยดูแลอยู่หลายเมืองสามารถตรวจสอบรายชื่อ จนท. ของเราได้ที่นี่ค่ะ
http://www.khonthaiamerica.com/KhonthaiAmerica_staff.html

เรียบเรียง Ice : KhonThaiAmerica


รูปจาก

www.breakingisraelnews.com  youngdcliving.wordpress.com  www.hbo.com wtv-zone.com
www.seti.org  verybadsyntax.deviantart.com www.govexec.com  www.zimbio.com
blog.kenkaminesky.com  www.smithsonianmag.com  www.ilankelman.org patriotspokenword.com  www.inetours.com
www.scientificpsychic.com washingtontripb.wikispaces.com commons.wikimedia.org
thedistrict.com   sportsxcars.com  www.eveandersson.com  www.americanhistory.si.edu


ข้อมูล
http://th.wikipedia.org/wiki
ขอบคุณข้อมูลและรายละเอียดจาก  http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jellyjourney&month=14-09-2014&group=2&gblog=22
http://pantip.com/topic/30287531






ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-12-1 18:32 , Processed in 0.041955 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน