Washington D.C. โดยตัวย่อ D.C. ย่อมาจาก District of Columbia เขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย) เป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ติดต่อกับรัฐเวอร์จิเนียและรัฐแมริแลนด์ โดยวอชิงตัน ดี.ซี.อยู่ในเขตฝั่งซ้ายของแม่น้ำพอตอแมก (Potomac River) การเดินทางในวอชิงตัน ดี.ซี.มี 3 ทางหลักๆคือ
1. Metrorail รถไฟใต้ดินที่นี่มีทั้งหมด6 สายค่ะ ราคาตกเที่ยวละประมาณ1.75 - 3.60 USD แล้วแต่ระยะทางและช่วงเวลาเดินทางว่าpeak หรือไม่ peak
2. Metrobus& DC Circulator Metrobusก็คือรถเมล์มีหลายสาย เดินทางสะดวกดีค่ะ เผลอๆเราว่าสะดวกกว่าใต้ดินด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องเดินขึ้นลงสถานีไปไกลๆรถเมล์ที่นี่ตรงเวลานะคะแค่เราไปรอที่ป้ายให้ถูกด้าน พอถึงเวลารถเมล์ก็มาค่ะ ระหว่างเดินทางเค้าจะคอยบอกเสมอว่าถึงป้ายไหนแล้วถนนไหนแล้วค่าโดยสารขึ้นกับระยะทางแต่ก็ไม่ค่อยแตกต่างไปจากใต้ดิน..เหมาะสมเวลาใช้เดินทางไปในที่ใกล้ๆที่ไม่มีใต้ดินหรือจะอ้อมเกินไปถ้าหากต้องกลับไปขึ้นใต้ดิน
DC Circulatorเป็นบัสอีกประเภทหนึ่งที่วิ่งวนเป็นวงกลม มีทั้งหมด 5 สายหลัก ค่าเดินทาง1 USD ตลอดสายจ้า
“SMARTRIPCARD” IS A MUST
SmarTripcard ก็เหมือนบัตรOctopus เวลาไปสิงคโปร์หรือ Oyster เวลาไปลอนดอนค่ะ SmarTrip ใช้ขึ้นได้หมดทั้งใต้ดินMetrobusหรือ DC Circulator การมี SmarTripจะช่วยลดราคาใต้ดินให้เราถึงเที่ยวละ 1 USD และลดราคาMetrobusเที่ยวละ 20 cent นอกจากนั้นหากเราขึ้นใต้ดินแล้วมาต่อMetrobus หรือ Metrobus แล้วมาต่อใต้ดินภายใน2ชม จะลดราคา 50 cent
SmarTrip เป็นบัตรแข็งๆเวลาใช้ก็แปะเข้าที่จุดรับบัตรค่ะทั้งประตูตรงใต้ดินและแท่นติ๊ดบัตรใน Metrobusเราสามารถซื้อบัตรง่ายๆที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกสถานีค่าซื้อบัตรครั้งแรก 10 USD เป็นค่าเดินทาง 8USD และค่าธรรมเนียมบัตร(ที่ไม่ได้คืน) 2 USD เวลาค่าเดินทางใกล้หมดเราก็เติมเงินเข้าไปผ่านค่าเครื่องเติมค่าโดยสารอัตโนมัติค่ะ
3.Walk!! คนที่นี่เค้าชอบเดิน(หรือบางทีก็วิ่ง) กันค่ะผังเมืองของวอชิงตัน ดี.ซี. เค้าวางมาดี เดินง่ายจาก USCapital ผ่ากลางออกเป็น 4 ทิศ NW NE SWและ SEถนนแนวนอนไล่ไปตามตัวอักษรจาก A Street ถนนแนวตั้งไล่ไปตามตัวเลขจาก 1st Street คนที่นี่เค้าจะบอกระยะทางกันเป็น blockเช่นเดินไปอีก 2 blocks แต่ขอบอกว่า blockที่วอชิงตันดี.ซี ไกลกว่าเมืองอื่นเยอะมากเลย แต่สักพักก็จะชินค่ะ
ข้อมูลการเดินทางจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jellyjourney&month=14-09-2014&group=2&gblog=22
สถานที่ท่องเที่ยวในวอชิงตัน ดีซีส่วนมากจะเป็นพิพิธภัณฑ์นะคะ น่าสนใจหลายที่มากๆเลย มาดูกันว่าแต่ละสถานที่ มีความสำคัญอย่างไรบ้าง
1. U.S. Capitol หรือ รัฐสภา
ภายในประกอบด้วยที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร(U.S. House of Representatives) และที่ประชุมวุฒิสภา(U.S.Senate) ซึ่งทั้ง 2 สภานี้ก็ประกอบเป็นสภาคองเกรส ทำหน้าที่ออกกฎหมาย
การเที่ยว TheU.S. Capitol จะมีเจ้าหน้าที่พาชมแต่ละห้องค่ะ สำหรับคนที่ไม่อยากไปต่อคิวเข้าชมแนะนำว่าควรจองวันเข้าชมและรอบไปก่อนผ่านเวบไซต์ นี้ ไม่เสียเงินนะคะ พอถึงวันนัดจะได้ไม่ต้องไปรอคิวค่ะแต่ควรไปก่อนเวลานัดซัก 45นาที เพราะจะมีการตรวจกระเป๋า ทัวร์เริ่มจากชม presentationสั้นๆเพื่อดูประวัติความเป็นมาของThe U.S. Capitol และประวัติศาสตร์การปกครองของอเมริกา หลังจากนั้นเราก็จะไปชมห้องต่างๆด้านใน
The U.S. Capitol เปิดวันจันทร์-เสาร์ตั้งแต่ 8.30 – 16.30 นั่งรถใต้ดินลงสถานี CapitolSouth สายที่ส้ม/น้ำเงิน/เงิน หรือใครอยู่ใกล้ๆจะเดินมาก็ได้นะคะ
2. Library of Congress
ห้องสมุดนี้ได้ขึ้นชื่อสวยมากๆๆๆๆห้ามพลาดเลยนะคะ เราสามารถเดินเชื่อมจาก The U.S. Capitol มาได้เลย Library of Congress แบ่งออก เป็น 3 ตึก คือThomas Jefferson building, James Madison Memorial building และ John Adams building
เข้าชมฟรี เปิดวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่ 8.30-21.30ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ The U.S. Capitol ค่ะ
3. National Gallery of Art
แนะนำว่าให้ไปดูรอบทัวร์ของที่นี่ก่อนนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่มาบรรยายที่มาของภาพทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น มี 3 ส่วนนะคะ มีEast building, West building, และ Sculpture garden
ฝั่ง West เป็นศิลปะยุคเก่าฝั่ง East เป็นแนว Modern ค่ะ ภายใน West Building จะมี Garden Caféขายอาหารคาวหวาน บุฟเฟต์ราคาหัวละ $20.75
ฝั่ง West
ฝั่ง East
ส่วน Garden ด้านนอกค่ะ
4. Natural History Museum
อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ถูกใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ค่ะเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับธรรมชาติ จัดแสดงสัตว์สตาฟนานาชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสัตว์น้ำ สัตว์เลื้อยคลาน นก โครงกระดูกของสัตว์ต่างๆ นอกจากนั้นยังมีจัดแสดง หิน และอัญมณีด้วยคอลเลคชั่นของที่นี่ใหญ่จริงๆค่ะ ถ้าเค้าบอกว่ามีนกสตาฟ ก็มีเป็นร้อยๆตัว บอกว่ามีโครงกระดูกก็มีตั้งแต่โครงกระดูกของนกงู เต่า จนไปถึง ลิง ปลาวาฬ จระเข้และไดโนเสาร์เลยของเค้าดีจริงๆ
เข้าไปโถงด้านในปุ๊ป ไฮไลท์เด่นสุดคือน้องช้างสตาฟค่ะตัวสถาปัตยกรรมด้านในก็สวยงาม ดูคลาสสิกดี แบ่งเป็นห้องย่อยๆสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็ชมคือHope Diamond ที่ชื่อว่าเป็น themost famous diamond in the world..Hope diamond เป็นเพชรฟ้าเข้มออกน้ำเงินหนัก45.52 กะรัต ความดังของเพชรนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสวยเท่านั้น แต่บางคนเชื่อว่าเพชรนี้ต้องคำสาปใครได้ครอบครองมันต้องมีอันถึงแก่ความตาย Hope Diamond มีประวัติยาวนานมากมันเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล จาก อินเดียไปฝรั่งเศส ไปอังกฤษ จนกระทั่งถูกส่งไปรษณีย์มาให้Smithsonian Institution ที่สหรัฐอเมริกา
อาหารที่นี่ค่ะ น่ากินจัง ว่าแต่เนื้อนี่ เอามาจากไหนนะ ใช่ตัวที่เหลือแต่โครงกระดูกหรือเปล่า - -'
เปิดทุกวัน ยกเว้น 25ธันวาคม ตั้งแต่ 10.00-17.30 ไม่เสียค่าเข้าชมค่ะตั้งอยู่ที่ National mall 9th-12thstreet Constitution Avenue เดินทางโดยรถไฟใต้ดินสถานี Federal Triangle บนสายสีน้ำเงิน/ส้ม/เงิน
5. National Museum of American History
พิพิธภัณฑ์นี้บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยุคอาณานิคมยุคปฏิวัติอเมริกา ยุคสงครามกลางเมือง จนมาถึงยุคปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงของหายากของเก่าในประวัติศาสตร์ เช่น ดาบของ George Washington ชุดของ Abraham Lincoln, Star-Spangled Banner Flag ธงชาติอเมริกาอายุกว่า200 ปี ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ Francis Scott Key แต่งเพลงประจำชาติของประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้น
เปิดทุกวัน ยกเว้น 25 ธันวาคม ตั้งแต่10.00-17.30 ไม่เสียค่าเข้าชม ตั้งอยู่ที่ National mall 12th-14th street Constitution Avenue เดินทางโดยรถไฟใต้ดินสถานี Federal Triangle บนสายสีน้ำเงิน/ส้ม/เงิน
6. US HolocaustMemorial Museumพูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์เกี่ยวกับที่Hitler ฆ่ายิวค่ะ จัดได้น่าสนใจมาก ไม่น่าเบื่อคนที่ไม่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์ยังชอบเลยค่ะ
7. Lincoln memorial
อนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีอับราฮัมลินคอล์นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของประเทศ อนุสรณ์นี้สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมกรีกด้านในมีรูปปั้นลินคอล์นนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำแพง 2 ข้าง แกะสลักคำปราศัย2 ครั้งที่ดังๆคือ The Gettysburg Address และ Second Inaugural Address ลินคอล์นถือว่าเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเค้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงที่มีสงครามการเมือง การมุ่งเลิกทาสของเขาทำให้เกิดความขัดแย้งกับรัฐทางใต้หรือ สมาพันธรัฐ สงครามกลางเมืองก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงในชีวิตของทหารและพลเรือนอเมริกาเพียง 4 ปีเท่านั้นที่ลินคอล์นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ลินคอล์นก็เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนแรกที่ถูกลอบสังหาร
8. Washington monument
อนุสาวรีย์วอชิงตัน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงGeorge Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาตัวอนุสาวรีย์มีลักษณะเรียบง่ายเป็นแท่ง Obelisk แบบอียิปต์มีความสูง170 เมตร ทำจาก หินอ่อน หินแกรนิต และหินทราย สร้างเมื่อปี 1848แต่มาแล้วเสร็จในปี 1884 หลังจากมีการหยุดสร้างไป20 กว่าปีจากการขาดเงินทุนและสงครามกลางเมือง ที่บอกว่าขาดเงินทุนเนื่องจากช่วงแรกรัฐบาลมีนโยบายที่ไม่อยากให้บุคคลใด หน่วยงานใดหรือบริษัทใดทำตัวเป็นนายทุน เป็นเจ้าของอนุสาวรีย์นี้จากการบริจาคเงินจำนวนมากดังนั้นรัฐบาลจึงไม่อนุญาตให้บริจาคเกิน 1 USD!!
และนี่เองที่ทำให้ขาดเงินทุนในการสร้างจนเมื่อกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งจึงยกเลิกเพดานในการบริจาคออกไป ถ้าสังเกตอนุสาวรีย์วอชิงตันดีๆจะพบว่าหินมันมี 2 สี ก็เพราะว่าหยุดไปนานเนี่ยหละค่ะ จะไปซื้อหินลอตเดิมสีเดิมมาต่อมันก็คงจะไม่มีแล้ว ทำให้ Washington monument เป็น two-tonemonument อย่างที่เห็น รอบๆอนุสาวรีย์ประดับด้วยธงชาติอเมริกา 50ธง แทน 50 รัฐ
อีก 8 สถานที่ และเครดิต มีต่อด้านล่างค่า |