Why the specified University.
Which Universities did you apply to (both admits and rejects).
Show me your GRE scorecard.
Where did you Undergraduate from.
Who is sponsoring you.
What does your father do.
What is your father's Income.
How many brothers and sisters do you have.
Do you have any relatives in USA.
Why don't you do this course in your country?
What will you do after completing MS.
Show your Experience Certificate.
Why Study in USA.
Did you got Scholarships.
Have you got any Loans.
Show your Pass Books/Bank statements.
What is your Undergraduate GPA/Percentage.
Parents retired? How will they pay.
Tell about your university.
Mention some professor names
Tell me how can you prove that you are gonna come back.
Where did your brother/parents completed their studies.
What's your Religion.
Why are you leaving your current job?
Have you ever been to US?
What will you do after coming back to Home.
You have so...brothers and sisters so your fathers saving is for all how will u finance..
Where do your parents live (If they live in USA).
Do you know anyone (in USA) in your University?
Do you know anyone in US?
What will you do if your Visa is rejected.
Will you come back to home during summers.
What do you think. Why University is giving Scholarship to you.?
Where are you planning to stay in USA?
Have you paid your semester fees?
เครดิต เจ้าของคำสัมภาษณ์นี้ไม่รู้เอาของใครมา ขอโทษที่ไม่ได้ขอแล้วก็ขออนุญาตโพสเพื่อเป็นความรู้แก่ท่านอื่นนะคะ ขอบคุณคะ
จากคุณ : linna
เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 13:15:39 A:118.172.141.86 X: TicketID:240045
*******************************************************
เจ้าหน้าที่กงสุล: พูดภาษาไทยสวัสดีครับ อันนี้ตอนเห็นแฟ้มแม่เรา
เรา: สวัสดีค่ะ
เจ้าหน้าที่กงสุล: พอเห็นแฟ้มเราเป็นวีซ่านักเรียนเท่านั้นแหละโห รัวภาษาอังกฤษมาเป็นชุด พูดไวมาก
เรา: sorry again plz
ท่านกงสุล: ภาษาอังกฤษ ทำไมคุณถึงต้องไปเรียนภาษาที่อเมริกา
เรา: เราฟังไม่ทัน เรานึกว่าเค้าถามว่าทำไมถึงต้องไปอเมริกา เราก็ตอบไปว่าไปเรียนภาษาแล้วก็พัฒนาภาษาอังกฤษเราพูภาษาอังกฤษนะคะ
ท่านกงสุล: ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ผมถามคุณว่าทำไมคุณถึงต้องไปเรียนภาษาที่อเมริกา เรียนเพื่องานที่ดีขึ้น เพื่อท่องเที่ยว หรือเพื่ออะไร
เรา: เราก็แบบโอ้โหตอบไงดีวะ ตอบเป็นภาษาอังกฤษเลย ฉันไปเรียนภาษาเพื่ออยากได้ภาษาอังกฤษที่ดี ยังตอบไม่จบท่านกงสุลหน้าคิ้วขมวดและ เราก็เลยบอกต่อว่า อนาคตเราอยากเปิดสถานบันสอนภาษาเป็นของตัวเอง เพราะเราเรียนภาษาจีนมา อยากได้อังกฤษเพื่อมาเป็นเจ้าของสถาบันภาษา ท่านกงสุลยิ้ม เฮ้อโล่งแล้วตู
เจ้าหน้าที่กงสุล: ใครเป็นสปอนเซอร์ให้คุณ ภาษาอังกฤษ
เรา: คุณพ่อ
ท่านกงสุล: พ่อยูทำอะไร
เรา: เจ้าของกิจการคะ กิจการของพ่อคือ โรงพิมพ์คะ
ท่านกงสุล: คุณมีญาติอยู่ที่อเมริกาไหม
เรา: มีคะพี่สาว เรียนอยู่ที่นั่น สักพักท่านกงสุลหน้าคิ้วขมวดอีกแล้ว แล้วก็พิมพ์คอมๆไป เราก็เอาไงดีวะทำอะไรเลยดี เลยสะกดชื่อพี่สาวไปให้ท่านเลย ท่านก็ยิ้มออกมา เราพูดเสียงดังด้วยฮ่าๆ
ท่านกงสุล: ท่านยิ้ม พูดว่าพี่สาวคุณอยากเป็นแอร์โฮสเตสใช่ไหม เราก็บอกว่าเยส สักพัก รัวมามาชุดใหญ่แบบใหญ่อลังการมาก บอกตามตรงแปลไม่ได้ฟังไม่รู้เรื่อง อเกนพรีสประมาณสองรอบ
ท่านกงสุล: ถือแฟ้มเรา รวบพาสปอร์ต นึกในใจกรูทำไรผิดวะเนี้ย ทำไงดีๆเค้ากำลังจะส่งคืนใช่ไหม เพราะท่านเหมือนจะรวบแล้วเหมือนจะยื่นคืนเลยงะ
แม่: นางเอกมาเลย ท่านคะพูดไทยดีกว่าคะ สักพักท่านวางแฟ้ม แล้วก็ยื่นหน้ามาพูดกับเราเป็นภาษาไทยว่า พี่สาวคุณบอกว่าจะไปเรียนหนึ่งปี แล้วนี่ทำไมอยู่เกินหนึ่งปีละ เราเอาแล้วใจหายแว๊บบบบบบบบ เรานึกในใจต้องรีบตอบ
เราเลยพูดภาษาอังกฤษ บอกว่า หนึ่งปีเนี้ย สำหรับเรียนภาษา แล้วตอนนี้พี่สาวเราสมัครเรียนปริญญาโทแล้ว แต่กำลังทำเอกสารอยู่ ถ้าท่านอยากได้ข้อมูลอะไร ให้ท่านเอาเบอร์ของมหาลัย เบอร์เจ้าหน้าที่ของมหาลัยที่พี่สาวเราสมัครไปได้เลย ท่านก็ยิ้ม
แล้วหันไปถามแม่เราแทน เป็นไงละนางเอกดีนัก อิอิ
ท่านกงสุล: คุณไปอเมริกาทำไมครับ ภาษาไทย
แม่: ไปส่งbaby แม่เราตอบไทยคำอังกฤษ คำ ท่านกงสุลคำอะ หัวเราะด้วยทำไมตอนเราไม่แบบนี้นะคะท่านทำหนูใจหาย
ท่านกงสุล: ยิ้ม คุณทำอาชีพอะไรครับ
แม่: ช่วยกิจการเฮียที่บ้าน เรานึกในใจเค้าจะรู้จักคำว่าเฮียไหม แม่เราเรียกพ่อเราว่าเฮียไงคะ ปรากฎเค้ารู้ว่าคือสามี
ท่านกงสุล: ไปกี่วันครับ ภาษาไทย
แม่: สิบวันเท่านั้นแหละคะ เพราะว่า เดี๋ยวเดือนกันยายนกิจการที่บ้านจะยุ่งมาก เพราะบ้านเราเปิดโรงพิมไงคะ ช่วงเดือนกันยาเป็นต้นไปมันจะเป็นหน้าทำปฎิทิน ตามที่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของกิจการ สั่งมาเพื่อให้ลูกค้ารายย่อย แล้วงานทำปฎิทินมันยุ่งมาก แถมเยอะด้วย แม่เราก็ต้องมาช่วยป๊า
ท่านกงสุล: ขอดูใบจดทะเบียนการค้าด้วยครับ เราก็ยื่นไป
ท่านกงสุล: เอาใบฟ้านี่ไปจ่ายที่ไปรษณีย์ด้านนอกนะครับ
เราก็ขอบคุณเดินอึ้งออกมา นี่เราได้แล้วใช่ไหมหม่าม้า ม้าบอกม้าไม่รู้แต่เค้าบอกให้ไปจ่ายตังที่ไปรษณีย์ ตกลงเราได้แล้วใช่ไหมคะ ที่เค้าไม่คืนพาสปอร์ต
อันนี้ของเราเองคะ
จากคุณ : linna
เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 13:20:20 A:118.172.141.86 X: TicketID:240045
*******************************************************
บอกเล่าประสบการณ์สัมภาษณ์ วีซ่าอเมริกา...
ก่อนอื่นขอขอบคุณ เพื่อน ๆ ในกระทู้และ คุณ ซูซี่
ผมและคู่สมรสม ไปสัมภาษณ์ F1 มาเมื่อ 13/6/2008
ภาษาอังกฤษ ครับ ( ถ้าพูดอักฤษได้ สัมภาษณ์อังกฤษเลย แนะนำ)
แต่งตัวดูดี ผู้ชาย ผูกไทเสื้อเชิต ผู้หญิงก็ ใส่สูท น่ะ เพราะเรามองว่ามันมีส่วนน่ะ…คิดว่าไปสัมภาษณ์งานบริษัทอินเตอร์...คนสัมภาษณ์ก็มองเราดีในระดับหนึ่งน่ะครับ
Embassy : Miss…….. please scan you second finger left side. Mr. And Miss : Sawadee krub and ka ( ไม่ได้ไหว้หรอก) กล่าวสวัสดี ( หน้า แก ดุ นิดหน่อย แต่เราก็ มองโลกในแง่ดี และ เตรียมพร้อมแบบมั่นใจ)
Embassy : MR…..Please scan your middle finger left side.
Embassy : Why do you want to go to US both together.
MR : We go to US for study English. Because I used to learn English in Thailand, but my weakness are speaking and listening ,and We need to learn and practice English with native speaker , And US is high education standard.
Embassy :Mrs. You work in the bank. How about Mr?
Mr. : I work at ZZZZ international company.
Embassy : How long have you got married? แล้วก็ พิมพ์ อะไรไม่รู้ พักนึง....
Mrs : I have got married for two years.
Embassy : Who do you live with? Who is AAA ( person I stay with) ?
Mr.: I will live with AAA. AAA is friend of my mother friend , Mother friend contact for me.
Embassy : What AAA do in US ? Restaurant or not?
Mr. : I don’t know sir.
Embassy : AAA is man ,right? Is he Chinese?
Mr : Yes , he is man and Chinese.
Emassy : Have you meet him before?
Mr. I have never met him?
Embassy : Do you place for rent or free?
Mrs : We pay for rent for one room.
Embassy : Why your cousin sponsor you? ( Cousin sponsor for MR , Mrs pay for herself)
Mr : We are close cousin and he has own business.
Embassy : What type of business?
Mr.: He has rubber tree estate.
Embassy : Mr , how long do you work at this company?
Mr. I have work for one and haft years.
Embassy : Does your company know about you will take off ?
Mr. : My company doesn’t know and I will inform them after visa approve sir, anyway I discuss with my boss about further study in US.
Embassy: Do you have company letter ( หนังสือรับรองเงินเดือน).
Mr. : I have it ( ทั้งสองเราก็ ให้เขาดู)
Embassy : OK it Pass and We will send back to you around 4 days.
Mr. And Mrs : Thank you very much. ( เขาเก็บทุกอย่างเลย DS156 157 158 , I-20 , Passport ,Sevis fee , ใบเสร็จค่าธรรมเนียม)
ก็ตอบตามจริงเลยอย่าอำอึ้งน่ะ เพราะอาจจะมีพิรุจ อีกอย่าง ถ้าไม่ทัน ก็ I beg your pardon.
สิ่งที่ เขาขอดู น่ะ DS156(รูปถ่าย 2*2 นิ้ว) 157 158 , I-20 , Passport ,Sevis fee , ใบเสร็จค่าธรรมเนียม ,transcript , company letter.
สิ่งที่เตรียม แต่ไม่ใช้เลย sponsor’s book bank / my book bank / parents’s book bank / ใบผ่านการเกณท์ทหาร / ทะเบียนสมรสตัวจริง / ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล / รูปถ่ายความสัมพันกับ สปอรน์เซอร์ / สมุดทะเบียนรถ /โฉนด เรา พ่อ แม่ / รูปถ่าย แก้ว แหวน เงิน ทอง อื่น ๆๆ / รูปแต่งงาน / รูปครอบครัวเราและ คู่สมรส /
สิ่งที่มานั่งคิดอีกทีว่าทำไมมีคำถามเยอะจัง
1. คนอื่นที่เป็น สปอน เซอรื ที่ไม่ใช่เราและพ่อแม่ ( เขาจะจ่ายให้เราทำไม)
2. คนที่เราจะไปอยู่ด้วย เขาก็ว่าจะเป็นญาติ หรือ คนรู้จัก กลัวเราจะไม่กลับ มั้ง ( บอกไปเลยว่าเช่าห้อง เป็น Homestay ถึงแม้จะรู้จัก..)
3. อายุด้วยมั้ง เราทั้งคู่ 28 ปี ทำงานแล้ว เขาคงคิดว่าจะไปทำไม มีงานแล้ว ( เราต้องตอบไปเลย แบบหนักแน่น)
เครดิต บล๊อคคุณซูซี่กับเจ้าของบทสัมภาษณ์คุณPai คะ
จากคุณ : linna
เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 13:25:15 A:118.172.141.86 X: TicketID:240045
*******************************************************
Embassy:Why do you want to go to America?
Me:I want to study English Course after that I will study in Master Degree.
Embassy:Who is sponsoring you ?
Me: My Father.
Embassy:What does he do?
Me: He has own 's business about the bag and the shoes.
Embassy:What is he doing ? ถามซ้ำมาไอ้เราก็ไม่รู้จะตอบไงอีก เลยตอบไปว่า
Me: He sold the bag and the shoes. กลับพยักหน้าแล้วพิมพ์ลงไป 555+
Embassy:Do you have relatives or family in the US?
Me: I beg your pardon please. ไม่รู้พูดถุฃูกป่าวแต่เค้าก็พูดอีกครั้ง (รอดตัวไป)
Embassy: Do you have relatives or family in the US?
Me: No.I don't have
Embassy:Where do you stay in the US?
Me:I will stay at Homestay.
Embassy: Ok .I improve you .
Me: Thank you very much .Good Bye.
เครดิต คุณzofeus นำมาจากบล๊อคคุณซูซี่
จากคุณ : linna
เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 13:26:52 A:118.172.141.86 X: TicketID:240045
*******************************************************
Robert: คุณ Sannita นะครับ
Sannita: ค่ะ (นึกในใจ ถ้าไม่ใช่ จะเสนอหน้ามาหรอคะ)
Robert: จา ปาย อเมริกา ทาม มาย ครับ
Sannita: ไปเที่ยวค่ะ
Robert: ปาย กาบ คราย ครับ
Sannita: เพื่อน ค่ะ
Robert: เพื่อน มี วีซ่า หรือยังครับ
Sannita: ยังค่ะ เพื่อนก็มาสัมภาษณ์วันนี้
Robert: (หยิบเอกสารของเรา Ayumo ขึ้นมา) คนนี้ ช่าย ม๊าย ครับ
Sannita: ค่ะ
Robert: (เปิด passport ดูที่ละหน้า ย้ำ ทีละหน้าจิงๆ) มีเล่มเก่า มั๊ยครับ
Sannita: ไม่มีค่ะ อันนี้เล่มเเรก
Robert: คุณ เขียนว่า เคยไป Australia มา วีซ่า คุณทำ ที่ไหน
Sannita: ไม่ทราบค่ะ ให้ บริษัท ทัวร์ทำให้
Robert: ไม่ใช่ ผม ถามว่า วีซ่า คุณทำ ที่ไหน
Sannita: (เริ่มหงุดหงิดแล้ว ตอบไปแล้วนะ หน้าเริ่มจะวีนนิดๆๆๆ) ไม่เข้าใจ คำถามค่ะ
Robert: (โกรธแล้วนะ) ผม ก็ ม่าย เข้า จาย คุณเหมือนกัน คุณบอกว่าปีนี้คุณเพิ่งไปออสเตรเลียมา แต่ผมไม่เห็นคุณมีวีซ่าออสเตรเลียเลย
Sannita: (เริ่มเก็ท โอ๊ยย ถามผิดแล้วค่ะคู๊นนน) อยู่ด้านหลังค่ะ
Robert: (เปิด passport ไปหน้าหลัง) อ๋อๆๆๆๆ นี่แหละๆ ผมเข้าใจแล้ว
Sannita: (ถูกค่ะ เข้าใจซะที เฮ้ออ)
Robert: แล้ว คุณ เอาเงินที่ไหนไปครับ
Sannita: (มั่นใจม๊ากกก) อ๋อ ก็มีเงินเก็บอ่ะค่ะ แล้วก็โบนัส
Robert: เงินเดือน คุณ เท่าไหร่ครับ
Sannita: 17,000 THB ค่ะ (แต่ตอบประหนึ่งว่า ได้ซักแสนเจ็ด)
Robert: แล้วโบนัส คุณได้เท่าไหร่ครับ
Sannita: อ๋อ ก็ประมาณ 2 เดือนครึ่งน่ะค่ะ (ปีนี้จะได้จิงป่าว ก็ไม่รู้)
Robert: โอเคๆ แล้วคุณจะไปเที่ยวที่ไหน
Sannita: ก็สาธยายกันไป เหมือนที่ดูมาจากโปรแกรมทัวร์ (นึกในใจ จะคำถามสุดท้ายยังเนี่ย เริ่มเซ็งแล้วนะ)
Robert: โอเคๆ ครับ ผมออก วีซ่าให้คุณ
Sannita: (ก็นั่นแหละค่ะ ที่เดี๊ยนต้องการ อิๆๆๆ) ขอบคุณค่ะ
เครดิต คถณLittle_@yumi ขอโท่ฃษไม่ได้ขออนุญาตนะคะ
จากคุณ : linna
เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 20:00:24 A:118.172.141.86 X: TicketID:240045