ถ้าใครชอบบรรยากาศแสงสีความสนุกสนาน รักแฟชั่นและเสียงดนตรี ชื่นชอบศิลปะ ชอบการช๊อปปิ้ง ชอบการปาตี้ รักชีวิตคนเมืองแบบกรุงเทพฯ ชอบบรรยากาศของเมืองที่ไม่เคยหลับ ผู้คนคึกคัก คงจะเหมาะกับเมืองนิวยอร์คแห่งนี้ ฟันธงเลย (อิอิ)
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ NYC จากชาว Pantip
- ถ้าเราถามทางหรือถามคำถาม เขาอาจจะขอเงินเราหนึ่งดอลล่่าร์ครับ ไม่ต้องให้ครับ พวกนิสัยไม่ดี ผมจะตอบไปว่า Just Thank you is enough พร้อมรอยยิ้ม ( บอกเป็นข้อมูลไว้ เผื่อเจอครั้งแรกแล้วตกใจ เผลอควักให้เขาไป เดี๋ยวเขาจะติดนิสัยครับ )
- ห้ามหลับบนรถไฟฟ้าเป็นอันขาดนะครับ จะเจอมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว และห้ามรอรถไฟในสถานีเปลี่ยวๆนะครับ เกิดอะไรขึ้นบอกได้คำเดียวว่าไม่คุ้มเลย
- อย่าคิดว่า New York อันตราย เพราะบ้านคุณแสนจะปลอดภัย ไม่ว่าจะที่ใดก็มีทั้งความปลอดภัยและอันตรายด้วยกันทั้งนั้น หากเป็นละแวกบ้านท่านท่านก็จะรู้ว่าที่ไหนสุ่มเสี่ยงไม่ควรเข้าใกล้ New York ก็เป็นเช่นเดียวกันมีทั้งอันตรายและปลอดภัย ที่สำคัญคืออย่าเปิดโอกาสให้อาชญากร และมีสติอยู่เสมอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปในอยู่ในจุดเสี่ยง ที่ลับตาคน มุมมืด เปลี่ยว ย้ำนะครับ อย่าเปิดโอกาสให้เขา
- การขึ้นบันไดเลื่อนให้ยืนชิดขวา ช่องทางซ้ายไว้สำหรับคนเดิน ถ้ายืนชิดซ้ายถึงกับโดนด่าได้ครับ
- ร่ม หาอันเบาๆพกติดกระเป๋าไว้ก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องเสียครั้งละ 5 ดอลล่าร์ แต่หากใครใช้ iPhone ก็ดูพยากรณ์อากาศรอบสัปดาห์ก่อนก็ได้ครับ ค่อนข้างไว้ใจได้ทีเดียว
- หากนัดหมายต้องไปตรงเวลาครับ หากคุณสายแม้เพียงห้าหรือสิบนาที คู่นัดของคุณอาจหาเรื่องโวยวายได้ แต่โดยรวมก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงครับ
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อเมริกาใช้ไฟ 110 Volt นะครับ ถ้านำอุปกรณ์ไฟฟ้ามาจากเมืองไทยให้ตรวจสอบก่อนนะครับ
- ชาว New York เค้าไม่ค่อยรับโทรศัพท์กันสักเท่าไหร่หรอกนะครับ หากจะโทรหาใครให้ทำใจไว้ก่อนเลย หากให้ฝากข้อความเราก็สันนิษฐานได้ว่าเขาอยู่ในรถไฟใต้ดินนะครับ ( ในรถไฟใต้ดินไม่มีสัญญาณ )
- หนังสือพิมพ์ที่นี่แจกฟรีนะครับ เขาหารายได้จากการโฆษณาแทน มีตู้แจกแทบทุกหัวมุมถนน
- แม้แต่ขึ้นรถเมล์ก็ต้องต่อคิวนะครับ คิวจะต่อมาจากป้ายรถเมล์ ก่อนจอดรถเมล์จะก้มต่ำลงให้เราขึ้นง่ายๆครับ ( เมืองไทยอาม่าวัดดวงเอาเองครับ ยังขึ้นไม่เสร็จเลย รถเลื่อนแระ )
- ราคาสินค้าแต่ละร้านไม่เท่ากัน แต่ละร้านสามารถตั้งราคาขายได้ตามใจชอบ โค๊กกระป๋องอาจจะมีราคาตั้งแต่ 69 เซ็นต์ ( ไชน่าทาวน์ ) ไปจนถึง 1.5 ดอลล่าร์ อาจจะดูไม่มาก แต่หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์มากกว่า 120% เลยทีเดียว
- ผลไม้กับผักขายตามความสดครับ ยิ่งสดยิ่งแพง
- มาตราชั่งที่ใช้เป็นปอนด์ lb ( พาว ) สองพาวเป็นหนึ่งกิโลกรัมโดยประมาณ
- ร้านอาหารจีน กินกันตาย 5 เหรียญ กินได้สองมื้อ สำหรับอาหารแนวกรรมกร ไม่เน้นคุณภาพแต่เน้นปริมาณ วันไหนผมไม่ทำกับข้าว ก็ไปสั่งร้านอาหารห้าเหรียญนี่แหละครับ ประมาณว่าเป็นเมนูสิ้นคิด ช่วงเย็นๆ ก่อนปิดร้าน มีการลดราคาเหลือสี่เหรียญกว่าๆ แต่จืดชืดกว่าอาหารไทย
- มาม่า ไม่ต้องหอบมาเยอะครับ สมัยนี้ครบทุกยี่ห้อ แทบทุกรส แต่ถ้าอยากประหยัดให้หาบ้านที่มีครัวครับ ทำอาหารทานเองจะประหยัดได้มากๆ ( คนไทยบางส่วนทำงานในร้านอาหารก็ไม่ต้องกังวลมาก เพราะร้านที่เราทำงานเขาให้เราทานได้หนึ่งมื้อเป็นอย่างน้อย ) ส่วนผมไม่ได้ทำงาน แต่โชคดีที่ได้บ้านที่มีคนไทยอาศัยอยู่ เขาจึงมีเครื่องครัว และเครื่องปรุงให้พร้อม ถือเป็นโชคดีครับ เพราะไม่งั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการตามหาเครื่องปรุงที่ต้องการนานพอสมควรครับ
- อาหารข้างทางมักจะเป็นเม็กซิกัน แต่ขอแนะนำว่าเลี่ยงได้ให้เลี่ยง เพราะน้ำมันเยอะมาก แถมฝุ่นควันรถ
- มีร้านพิซซ่าเยอะใน Manhattan เพราะพิซซ่าที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับสองของโลก ราคามาตรฐานประมาณห้าดอลล่าร์ขนาดประมาณ iPad
- การเข้าออกตึกใหญ่ๆ ต้องมีการแลกบัตร จดชื่อ รายละเอียดไว้ก่อน ขึ้นตึกระฟ้าแต่ลิฟท์ไวมากครับ
- ค่าถ่ายเอกสาร ค่าส่งแฟกส์ หาร้านยากและแพงแบบขูดรีดทีเดียวครับ ถ่ายพาสปอร์ต วีซ่า ใบขับขี่สากลมาจากเมืองไทยให้เสร็จดีกว่าครับ กระดาษสี่ห้าใบไม่หนักขึ้นเท่าไหร่ครับ
- พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่สากลแทนพาสปอร์ตครับ เพื่อความปลอดภัย ส่วนพาสปอร์ตเก็บไว้บ้านครับ ( จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้ นอกจากเข้าสถานบันเทิง )
- ห้ามเปิดประตูหนีไฟโดยเด็ดขาด มาตรการขึ้นลงชั้นเดียวใช้บันไดไม่เหมาะกับอเมริกา เพราะสัญญาณเตือนไฟจะดังขึ้นทันที
- ห้องน้ำ หายากมาก ไม่ใช่นึกอยากจะเข้าห้องน้ำร้านไหนก็ขอเข้าได้ หรือแวะปั๊มฟรีแบบบ้านเรา หากทำธุรกรรมที่ตึกใด ควรทำกิจให้เสร็จก่อนออกจากอาคารนั้นจะง่ายกว่า
- ห้องน้ำที่อเมริกาไม่มีสายฉีดล้างก้น ( อันนี้ไม่มีใครเคยเตือนข้าพเจ้ามาก่อนเลย ) เขาใช้กระดาษทิชชู่ แถมเป็นทิชชู่แบบแห้ง ไม่ใช่แบบเปียกน้ำแล้วละลายแบบบ้านเรา แถมที่นั่นอากาศหนาว ( อุจจาระจะแข็งและแห้งกว่าปกติมากๆ เช็ดยังไงก็ไม่สะอาด มันไม่เหมือนล้าง เราคนไทยชินกับการล้างก้น ) แต่มีวิธีแก้ ซื้อทิชชู่เปียก Wipe ที่เขาใช้เช็ดก้นเด็กแก้ขัดไปก่อน
- เสื้อผ้าที่ใส่แล้วเขามีร้านซักรีดหยอดเหรียญ และมีเครื่องอบ เราจะไม่ได้เห็นการตากผ้าอีกต่อไป ที่นี่คือสวรรค์ของการซักผ้าโดยแท้จริง ผมเตรียมเสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีดไปอบเสร็จก็ใส่ได้เลย
- พระจันทร์ที่นั่นไม่เหมือนที่บ้านเรา เอียงเป็นรูปแบบโลโก้ Dream Works เลยทีเดียว
- ฤดูร้อนพระอาทิตย์อาจตกตอนสามทุ่ม ( ถูกแล้วครับสามทุ่ม )
- ฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดลงได้ถึง -15 องศาเซลเซียส ( แต่หน่วยวัดที่อเมริกาจะใช้องศาฟาเรนไฮต์ ต้องคำนวนนิดหน่อยครับ ) เราต้องระวังเรื่องไฟไหม้ในช่วงฤดูหนาวให้ดี ไม่ได้พูดเล่นนะครับ เคยมีไฟไหม้ในตอนล่างของเกาะแมนฮัตตันกว่าสองร้อยหลังคาเรือน เหตุเพราะน้ำในหัวดับเพลิงกลายเป็นน้ำแข็งจึงไม่สามารถใช้การได้ ( ปัจจุบันคงมีรถดับเพลิงเพียงพอ )
- หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็จะมีรถดับเพลิง และรถพยาบาลไปสมทบกันที่เกิดเหตุครับ เขาเตรียมความพร้อมไว้เสมอ แม้จะเป็นเพียงแค่การชนท้ายก็ตาม
- สุดท้าย การส่งของกลับไทย มีบริการส่งหลักๆอยู่สองเจ้า ราคาไม่ถูกนะครับ ดังนั้นการไปใช้ชีวิตอยู่ที่นู่น การจะซื้อสินค้าแต่ละชิ้นให้เราคำนึงถึงระยะเวลาในการใช้งานและความจำเป็นด้วยครับ หลายอย่างที่อยากส่งกลับมาแต่ค่าส่งกลับแพงกว่าซื้อใหม่ที่ไทยก็เยอะครับ สรุปคือทิ้งแทบทั้งหมดเลย
- ห้างสรรพสินค้า การซื้อของที่อเมริกาเหมือนเป็นการรับประกันไปในตัวครับ คือสามารถคืนได้ภายใน 30 - 90 วัน ( ผิดกับบ้านเรา ขายแพงกว่า แถมห้ามเปลี่ยนคืน ) ซื้อผิดไซส์ ผิดสี นำไปเปลี่ยน หรือแลกเงินคืนได้จริงๆครับ ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน
- ทุกอย่างที่เห็นยังไม่รวมภาษี 8.76 % ซึ่งไม่สามารถ Tax Refund ได้แบบยุโรป ดังนั้นหากจะชอปปิ้งเตรียมเครื่องคิดเลขไว้ด้วยก็จะช่วยได้มากครับ ( แต่ถ้าเราซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านพวกร้านจีนเขาก็จะไม่บวกภาษีครับ )
- Macy's เปรียบได้กับ Central หรือ The Mall แต่ไม่ได้มีสินค้าหลากหลายแบบเมืองไทย มีแต่สินค้าแฟชั่นและเครื่องนอนครับ ห้างนี้ที่สาขาถนน 34 จะมีบันไดเลื่อนที่ิก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่ด้วย แต่ค่อนข้างเก่าและน่าหวาดเสียวเล็กน้อย หากนำเด็กเล็กไปด้วยขอให้ใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น ในวันขอบคุณพระเจ้าก็จะมีพาเหรดของห้าง จัดงานกันอลังการทีเดียว
- Toys R Us ถ้าได้มีโอกาสไป Time Square แนะนำให้ไปที่ร้านนี้ คุณจะลืมอายุของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง ส่วนสาขาอื่นไม่แนะนำให้เข้า เพราะอาจสร้างความผิดหวังให้ ( อีกสาขาอยู่ที่ Flushing ใหญ่โตอลังการมากแต่ต้องลง Subway ที่ Flushing แล้วต่อรถเมล์ไป ) ซื้อของร้านนี้แล้วเก็บบิลไว้คืนเงินได้ใน 90 วัน
- Babies R Us เจ้าของเดียวกับ Toys R Us เรียกได้ว่ามีทุกอย่างเกี่ยวกับเบบี๋ มีทุกอย่างจริงๆ แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพราะว่าเลือกไม่ได้ เยอะจนงง แนะนำให้ทำการบ้านให้ดีก่อนเข้าไปครับ นโยบายเดียวกับ Toys R Us คืนเงินหรือเปลี่ยนของได้ภายใน 90 วัน
- Best Buy แหล่งรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า พนักงานตอบคำถามได้ดีครับ หากท่านอยากใช้ WiFi ฟรีที่ร้าน ให้พิมพ์ Bestbuy ในช่องค้นหาแหล่ง WiFi ในมือถือของท่านนะครับ รับรองว่ามีแต่เขาซ่อนเอาไว้ เปิด WiFi เฉยๆจะหาไม่เจอต้องพิมพ์ครับ
- B&H เป็นอาณาจักร ( ยิว ) เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจงครับ เช่นกล้องถ่ายรูป เครื่องขยายเสียง อุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพยนต์ ฯลฯ พนักงานที่นี่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองขาย ต่างกับที่เราเคยเจอ นอกจากเราจะถามปัญหาที่เฉพาะเจาะจงหรือปัญหาทางเทคนิค เขาจะไปหาคำตอบหรือปรินท์เอกสารมาให้ ( แต่ผมแนะนำว่าอย่าไปเชื่อเขามาก เช่นผมเคยไปซื้อกล้องถ่ายรูป ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าร้านอื่น แต่เขาจะแกมบังคับให้คุณซื้อเมมโมรี่การ์ดแบบแพงที่เขาสามารถฟันกำไรจากเรา ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ทำการบ้านก่อนชอปปิ้งจะดีที่สุดครับ )
- Barns & Noble ร้านหนังสือชั้นนำ เหลืออีกไม่กี่สาขาสุดท้ายแล้ว เพราะโดน Kindle แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปเยอะ
- Wall mart ต้องขับรถไปไกล คงไม่มีใครถ่อขับไป เพราะตามกฎหมายห้างขนาดนี้ห้ามอยู่ในตัวเมืองครับ ไม่งั้นเมืองก็จะกระจุกตัวและมีปัญหารถติดแบบบ้านเราตามมา นี่เป็นสาเหตุนึงที่การซื้อขายแบบออนไลน์เติบโตมากในอเมริกา
- Fifth Avenue เป็นถนนชอปปิ้งทั้งเส้น ช่วงใกล้ Central Park มีสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ อาทิ LV Bvlgari Cartier ฯลฯ นัดมารวมตัวดูดเงินนักท่องเที่ยวด้วยกันที่นี่ ร้านค้าที่ไม่ใช่แบรนด์ชั้นนำไม่น่าเข้านะครับ สินค้าโก่งราคามากๆ แถมพ่อค้าลูกเล่นเยอะ ต้องการซื้ออะไรไปร้านเฉพาะทางที่บอกไว้ดีกว่าครับ ซื้อผิดไปแลกเงินกลับได้ครับ
- ห้างอื่นๆที่ถนน Fifth Avenue ก็มีเยอะนะครับ แต่ไม่ใหญ่และครบวงจรแบบบ้านเรา เป็นยี่ห้อที่ผมไม่รู้จักครับ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้
- ภัตตาคาร ไม่หิวจริงๆอย่าสั่งมาเยอะนะครับ ขนาดอาหารแต่ละจานอลังการมาก ( อยู่ไปนานๆจะไม่แปลกใจ แต่ตอนไปใหม่ๆตกใจมาก จะกินหมดได้ไง ถ้าไปทานข้าวในภัตตาคาร จะต้องห่อกลับมาบ้านทุกที ) อย่าลืมทิป 10% เป็นอย่างต่ำ งานบริการที่นี่ต้องทิปหมด ถ้าไม่ให้หรือลืมให้เขาจะทวง เคยไปตัดผมครั้งนึง เดินออกจากร้านมาแล้วช่างยังเดินตามมาทวงค่าทิป ( ก็เลยงงว่าตัดผมต้องทิปด้วยหรอ )
โดยรวมคิดว่าอย่าสุ่มเสี่ยงลองชิมดีกว่าครับ รสชาติไม่ถูกปากเอามากๆ แต่ถ้าใครมาถึงแล้วอยากลองก็คงห้ามกันไม่ได้ครับ
- ธนบัตร เป็นสีเขียวเหมือนกันหมด เวลาจ่ายเงิน ให้ตรวจตราดูให้ดี แต่ถ้ามาหลายเดือนก็จะกลายเป็นบัตรเดบิทโดยธรรมชาติ เพราะทุกร้านรูดได้หมด ไม่เว้นร้านของชำ
จากคุณ : SAINT_OF_FIRE
และหากใครต้องการเรียนภาษา แบบได้ซึมซับความเป็นนิวยอร์กให้เต็มที่ ก็ควรจะเลือก รร. สอนภาษาที่อยู่ในแมนฮัตตันนะคะ รับรองทุกๆวันของคุณจะไม่เหงาแน่นอน
เขียนโดย Linz @ KhonThaiAmerica.com