แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2018-8-28 13:50
การที่เราจัดการกับสมองให้ฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษ จะช่วยให้เราเรียนภาษาให้เก่งไวมากขึ้น หากไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง วันนี้มีเทคนิคง่ายๆ มาฝากค่ะ
kaboompics/pixabay.com
1. แปลความคิดตัวเอง
มาเริ่มต้นที่วิธีเบสิคที่เหมือนว่าจะเป็นรากฐานในการเรียนภาษาแบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด นั่นก็คือ “การฝึกแปลความคิดของตัวเอง” จริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นเรียนภาษาอะไรก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน และสำหรับน้องๆ ที่ไม่ได้มีพื้นฐานทางภาษาที่แข็งแรงสักเท่าไหร่ วิธีเริ่มต้นง่ายๆ เลยก็คือ ลองแปลคำศัพท์ง่ายๆ โดยเริ่มจากสิ่งของรอบตัวเองก่อน อย่างเช่น เวลาเห็น ‘ต้นไม้’ ก็ลองแปลคำศัพท์ง่ายๆ ว่า ‘tree’ หรือถ้าเรายังไม่รู้ว่าคำนี้มันแปลว่าอะไร ก็ลองนึกถึงคำที่บอกลักษณะของมัน อย่างต้นไม้ มีสีเขียว ก็นึกคำว่า green หรือถ้าพูดถึงต้นไม้ ก็อาจจะอยู่ในป่าไม้ ก็นึกถึงคำว่า wood เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว ลองค่อยๆ แปลหรือค่อยๆ นึกเป็นภาษาอังกฤษจากสถานการณ์รอบตัวเราเอง อย่างเวลานั่งรถไปไหนก็ตาม หรือเวลาเรากำลังเดินอยู่ ก็ลองฝึกคิดการบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ เช่น go straight ตรงไป turn left เลี้ยวซ้าย turn right เลี้ยวขวา เป็นต้น ลองฝึกจากสถานการณ์ง่ายๆ ที่เราคุ้นเคยก่อน พอฝึกไปเรื่อยๆ มันจะกลายเป็นความเคยชินไปเอง และเมื่อเริ่มคล่องแล้ว ก็ลองเริ่มฝึกแปลความคิดเป็นประโยคดูบ้าง แรกเริ่มอาจจะไม่ถูกไวยากรณ์หรือรูปแบบต่างๆ มันก็อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอยากจะคิดแบบภาษาที่ถูกจริงๆ เมื่อมีประโยคไหนไม่แน่ใจ ก็ควรเช็กใน Google หรือ Dictionary ด้วย เพื่อจะได้ใช้อย่างถูกต้อง
diannehope14/pixabay.com
2. ใช้พจนานุกรมแปล Eng-Eng
สำหรับการเรียนภาษานั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘พจนานุกรม’ นั้นสำคัญมากๆ เปรียบเสมือนอาวุธหลักที่ใช้ได้ทุกเมื่อเวลาที่เราสงสัยหรือไม่รู้คำศัพท์ แต่สำหรับใครที่อยากซึมซับและเข้าถึงภาษาแบบจริงจัง ก็ลองเปลี่ยนจากการใช้พจนานุกรม ภาษาอังกฤษ - ไทย ที่ใช้กันประจำ แล้วเปลี่ยนมาใช้เป็น “พจนานุกรม ภาษาอังกฤษ-ภาษาอังกฤษ” เพราะว่าถ้าเราแปลอิ๊งเป็นไทย ข้อมูลหรือความหมายของคำที่เราจะจำ ก็จะเป็นภาษาไทย แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาแปลจากอิ๊งเป็นอิ๊ง นอกจากเราจะรู้ความหมายของคำๆ นั้นแล้ว เราจะยังได้รู้ถึงความหมายและคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ แถมยังรู้คำศัพท์ที่มีความหมายเพิ่มไปอีกด้วย
Consultoria Acadêmica/flickr.com
3. เขียน Journal / Diary
หากอยากนึกคิดเป็นภาษาอังกฤษแบบอัตโนมัติ ก็ต้องอาศัยทักษะหลายๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง และทักษะที่มีส่วนช่วยในการฝึกสมองให้คิดเป็นภาษาอังกฤษก็คือ ‘ทักษะการเขียน (Writing)’ และถ้าหากอยากจะเริ่มเขียนแบบง่ายๆ ก็ควรเริ่มจากการเขียนสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ลองเริ่มเขียนบันทึกประจำวัน ลองเปลี่ยนจากการเขียนไดอารี่ภาษาไทยมาเป็นภาษาอังกฤษ ลองฝึกเขียนทุกวัน บอกเลยว่าจะซึมซับแบบไม่รู้ตัว
แต่การเขียนที่ดีนั้นก็ควรเขียนให้ตรงหลักภาษาด้วย และถ้าน้องๆ ไม่รู้ว่าควรเขียนอย่างไร ก็ลองเสิร์ชดูในอินเทอร์เน็ตก็ได้ ถือว่าเป็นการเรียนรู้ไปในตัวอีกด้วย และถ้าใครไม่สะดวกที่จะนั่งเขียนไดอารี่ ก็ลองเริ่มจากการอัปสเตตัสในโซเชียลมีเดียเป็นภาษาอังกฤษดู ก็ถือว่าเป็นการฝึกภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน เพราะคนส่วนใหญ่มักจำในสิ่งที่ตัวเองโพสต์ลงไปในโซเชียลได้
jill111/pixabay.com
4. อ่านวรรณกรรม
หลายคนบอกว่าถ้าอยากรู้ถึงความนึกคิดของเจ้าของภาษาที่เราเรียนอยู่ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ “การอ่านวรรณกรรม” เพราะนอกจากเราจะได้รับความจรรโลงใจจากการอ่านวรรณกรรมแต่ละเรื่อง และรวมไปถึงการเขียนของนักเขียนหลากหลายรูปแบบ วิธีการใช้ประโยค หรือแม้กระทั่งการเลือกใช้คำศัพท์ และสิ่งที่เราจะได้มากกว่านั้นก็คือ ได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรม สังคม วิถีชีวิตของคนชาตินั้นๆ และรู้ถึงวิธีการคิด แนวคิดของคนชาตินั้นๆ ว่าเค้ามีวิธีการวิเคราะห์ หรือการมองโลกอย่างไร การที่เราได้อ่านวรรณกรรมก็เหมือนเป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้กับเราและยังช่วยปลูกฝังและซึมซับแนวคิดแบบคนชาตินั้นตามไปด้วย
youtube.com
5. เสพสื่อต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ
มาถึงวิธีคลาสสิกที่สุดที่หลายคนเลือกทำกันเมื่อเรียนภาษาอังกฤษ หรืออาจจะเป็นภาษาอื่นๆ นั่นก็คือ “การเสพสื่อเป็นภาษาอังกฤษ” ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ดูซีรีส์ ดูข่าว ฟังเพลง รายการทีวี หรืออาจจะดู Ted Talk ก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและทำแล้วได้ผลแน่นอน พี่เชื่อว่าตอนเด็ก น้องๆ หลายคนก็น่าจะเคยอาศัยการจำประโยคในละคร หรือในบทเพลงที่เราฟัง พอจำแล้วก็นำมาใช้จริง และเช่นเดียวกันกับการเรียนภาษาอังกฤษ การเลือกจำด้วยวิธีนี้ก็ช่วยได้เหมือนกัน ถือว่าเป็นอีกวิธีในการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เราค่อยๆ ซึมซับภาษาเข้าไปเอง และจะช่วยให้เราคิดเป็นภาษาอังกฤษแบบอัตโนมัติแน่นอน
leovalente/pixabay.com
6. พูดคุยกับคนอื่นที่ใช้ภาษาอังกฤษเหมือนกัน
ต่อให้เราเรียนรู้เคล็ดลับหรือวิธีมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเราไม่นำมาใช้จริง ทฤษฎีเลิศหรูมากแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยเราได้ และการที่เราได้ลองฝึกคุยกับเจ้าของภาษาหรือคนที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ก็จะเป็นการช่วยฝึกเราให้คิดเป็นภาษาอังกฤษอยู่เสมอ และยิ่งถ้าเราได้ลองพูดคุยบ่อยๆ ก็จะยิ่งซึมซับและเคยชินไปเอง
cuncon/pixabay.com
7. ฝันเป็นภาษาอังกฤษ
มันก็จริงอยู่ที่คนเราไม่สามารถบังคับให้ตัวเองคิดเป็นภาษาอังกฤษตอนฝันได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ฝันเป็นภาษาอังกฤษ นั่นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ระบบความคิดของเราตอนนี้เริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษแล้ว นั่นหมายถึงว่า การที่เราฝึกบ่อยๆ มันได้ผลจริง พี่เองก็เคยฝันเป็นภาษาอังกฤษอยู่บ่อยครั้ง อาจจะเป็นเพราะว่าการเสพสื่อต่างประเทศเยอะๆ มันทำให้เราจำแล้วเก็บไปคิดเป็นตุเป็นตะ บางครั้งก็ฝันว่าตัวเองอยู่ในฉากหนึ่งของภาพยนตร์และสปีคอิ๊งรัวๆ เลยก็มี 55555 ดังนั้น อย่างที่บอกไปแหละว่าการฝึกบ่อยๆ เอาตัวเข้าไปอยู่ในสังคมที่ใช้ภาษาอังกฤษ มันมีส่วนช่วยได้จริงๆ
วิธีนี้สามารถทำใหเราได้ฝึกภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ ลองไปปรับใช้ดูค่ะ ใครที่สนใจเรียนเมืองอากาศดีที่อเมริกา อังกฤษ ไอร์แลนด์ สก็อตแลนด์ ออสเตรเลีย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อีเมล enroll@khonthaiamerica.com หรือทาง Inboxhttps://www.facebook.com/KhonThaiAmerica ทางเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนอยู่ตามเมืองต่างๆ ในอเมริกานะคะ
โดย Ice : KhonThaiAmerica
ที่มา
https://www.dek-d.com/studyabroad/49942/
|